รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว "บิ๊กตู่" ยิ่งใหญ่ 28 คน จับมือทำงาน แย้มนโยบาย 3 ข้อ

รวมไทยสร้างชาติ

รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัว “บิ๊กตู่” ยิ่งใหญ่ในงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” โชว์สมรรถนะ นักการเมืองรุ่นใหญ่-รุ่นใหม่ 28 คน ประเดิม จับมือทำงาน เพื่อบ้านเมือง บิ๊กตู่ แย้มนโยบาย พรรค 3 ข้อ รื้อสิ่งไม่ดี ลด ปลดเปลื้อง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ Exhibition Hall 1 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” เปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าสู่สนามลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการ นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รวมทั้งผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรคที่เดินทางมาจากทั่วประเทศร่วมแสดงความยินดีแน่น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างครื้นครึก

เปิดตัวบิ๊กตู่

ก่อนการเริ่มงาน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ในฐานะสมาชิกอาวุโสของพรรค

ได้ขึ้นเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “เสวนาประสาไตรรงค์” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมการเสวนาจำนวนมาก โดยนายไตรรงค์กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยกำลังมีปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่ง การถูกธุรกิจสีเทา ธุรกิจเกี่ยวกับยาเสพติด เข้ามาทำให้ประเทศชาติตกต่ำ โดยไม่คิดถึงจริยธรรมและก็ศาสนา

สิ่งเหล่านี้จะต้องรีบแก้ไข แล้วก็การตั้งพรรคการเมืองขึ้น มาสักพรรคหนึ่งไม่ใช่แค่ ตั้งขึ้นมาแต่จะต้องมีอุดมการณ์ และแนวทางที่ชัดเจน ว่าจะให้ประเทศเดินไปทางไหน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ มุ่งมั่นอย่างชัดเจน หนักแน่นว่าจะคุ้มครองปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมรักษาประเทศไทย ให้ดำรงความเป็นชาติไทยที่มีอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ เทียบเท่ากับประเทศอื่น ๆ

นายไตรรงค์ กล่าวว่ากล่าว ประเด็นสำคัญในตอนนี้ที่จะต้องให้ความสำคัญและพรรค รวมไทยสร้างชาติ มองเห็นคือประเด็นที่หนึ่ง ได้แก่ เรื่องของการเข้ามา ของประเทศมหาอำนาจ บางประเทศที่เข้าล้างสมองเยาวชน ให้เกลียดชังประเทศ เผ่าพันธุ์ ประวัติศาสตร์ รวมถึงศาสนาของประเทศด้วย เป็นปัญหาสำคัญ ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญรวมทั้งต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ประเด็นต่อ มาคือเรื่องของความเสื่อมทางคุณธรรม การคอร์รัปชัน คดโกงกินของระบบข้าราชการไทย

ที่ทำให้เกิดธุรกิจสีเทาเนื่องจาก มีข้าราชการแล้วก็นักการเมืองไม่ดีให้การสนับสนุน ตนอยู่ในการเมืองมา 40 ปี ทราบเรื่องนี้ดี ดังนั้นจึงมีความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องทำลายล้างให้หมด ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ การรักษาประเทศไทย ให้อยู่ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขตลอดกาล เพราะเหตุว่าประเทศ ที่ไม่มีระบบกษัตริย์ เป็นศูนย์รวมก็จะก่อให้เกิดความแตกแยกด้วยเหตุว่ามีการแย่งชิง ตำแหน่งประมุข ของประเทศด้วยแนวทางการต่าง ๆ ทำให้ประเทศย่ำแย่เหมือนประเทศอื่นที่มองเห็นกันมามากมาย

ในตอนท้ายของการเสวนา นายไตรรงค์ได้ยกพระบรมราโชวาท ของในหลวง รัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง รวมทั้งควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความตกระกำลำบากยุ่งวายได้ โดยขอให้ประชาชน ได้เลือกคนดีเข้ามาเป็นตัวแทน เพื่อปกครองบ้านเมือง ตามพระบรมราโชวาท พร้อมกล่าวว่า ตนอยู่พรรคไหนก็จริงใจ กับพรรคนั้น ไม่ใช่คนเหยียบเรือสองแคม ไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง และมาพรรค รวมไทยสร้างชาติทั้งยังครอบครัว และก็ยังตระเตรียมให้ลูกสาว ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนด้วย ขณะเดียวกันยืนยันว่าจะเกื้อหนุนให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป เนื่องจากมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี

รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ

ต่อมาเวลา 17.30 น. เป็นการเริ่มพิธีบนเวที โดยวีดิทัศน์แนะนำความเป็นมาของพรรค รวมไทยสร้างชาติ

ก่อนที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐส่วน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะขึ้นเวทีเปิดตัว ผู้แทนทีมสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ “คนรุ่นใหญ่” รวมทั้ง “คนรุ่นใหม่” โดยมีตัวแทนสมาชิกพรรค ทั้งสองกลุ่มขึ้นเวทีประกาศเจตนารมณ์ และก็ความตั้งใจในการร่วมมือกันสร้างการเมืองที่ดี ที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดเคยทำมาก่อน โดยจะเน้นการทำงานเพื่อประชาชน และก็ประเทศชาติ ผ่านแนวคิดประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ รวดเร็ว และทันสมัย ผสมผสานกับการ ทำงานของนักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่มีประสบการณ์สูงเพื่อเกิดการทำงานที่มีคุณภาพ มุ่งเป้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน และบ้านเมืองอย่างตามที่เป็นจริง

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยได้เห็นมีคนมาประชุมงาน การเมืองมากเท่าวันนี้มาก่อน ในวันนี้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2566 เตรียมออกเสียงเพื่อจะมาเป็นพรรคหลักของประเทศถัดไป ครั้งแรกเพียงแค่จัดแจงแผนเพื่อตั้งคณะกรรมการสรรหา แต่ปรากฏว่ามีบุคคลสำคัญที่ประเทศไทยอีกทั้งประเทศจับตาว่าจะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ครั้งแรกจะตระเตรียมที่ ม.กรุงเทพธนบุรี แต่ไม่ยอมรับคนที่ต้องการจะมาไม่ได้

เนื่องจากทุกคนอยากจะมาร่วมให้กำลังใจ เมื่อต้านความต้องการ ไม่ได้ก็เลยต้องย้ายพื้นที่ แต่ก็ไม่พอเพราะว่าปรากฏว่ามีคนล้นพื้นที่ออกไป สำหรับสมาชิกของพรรคที่ยืนอยู่บนเวที ไม่ได้มีเท่านี้แต่ยังมีมากกว่านี้ ตนเคยบอกไว้ตั้งแต่วันเปิดพรรคเมื่อ 3 ส.ค.ว่าจะนำพาพรรคเป็นพรรคหลักของประเทศ ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้จากสมาชิก 7,000 กว่าคน จนกระทั่งตอนนี้มี 30,000 กว่าคนแล้ว

บิ๊กตู่

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่ากล่าว ต่อไปนี้จะไม่มีสี ไม่มีฝ่าย

พรรครวมไทยสร้างชาติจะก่อให้คนไทยกลับมามีความรักสามัคคีอย่างเดิม อีกทั้งพี่น้อง นปช. ชาติพันธุ์ กลุ่มเสื้อแดง ทุกคนรักชาติบ้านเมือง ไม่มีใครอยากจะทะเลาะกันอีกแล้ว วันนี้ประเทศไทยจะต้องเดินหน้า พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำแบบนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากคนทั้งประเทศ ก่อนหน้าตนประกาศว่าจะเป็นคนนำพาพรรคต่อสู้การเลือกตั้ง แต่วันนี้มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นผู้นำ ซึ่งที่ผ่านมาท่านไม่เคยคิดจะเป็นนักการเมืองแต่วันนี้สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการนำ ความรักความสามัคคีกลับมาให้กับประเทศไทย

ต่อมาเวลา 18.00 น. ถือเป็นช่วงไฮไลต์สำคัญ คือการเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดภาพวีดีโอการลงนามเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นเวทีท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับของสมาชิกพรรค ที่มาร่วมงานและก็โบกธงโลโก้พรรค ให้กำลังใจเต็มห้องประชุม ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวถึง Mission แล้วก็ทิศทางต่อไปเพื่อคนไทยอีกทั้งชาติ ว่า รู้สึกขอบคุณ ทุกคนเป็นคนไทยหัวใจเดียวกัน วันนี้ได้มาเป็นวันแรก ครั้งแรกในชีวิตที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และก็พรรคที่เลือกสมัครคือพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนอยู่กับคนไทยมาหลายปีแล้วทุกคนจะจำได้

อย่างไรก็ลบภาพทหารของตัวเองไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ปรับตัวมาตลอด ที่ตนมีวันนี้ได้เนื่องจากคนไทยทุกคน เนื่องจากว่าประเทศไทยคือประเทศที่ศักดิ์สิทธิ์ วันนี้รู้สึกดีใจ ซาบซึ้งใจ และก็ตื่นเต้น ทั้งยังที่ไม่เคยกลัว หรือตื่นเต้นกับอะไรมาก่อน เนื่องจากเป็นทหารกลัวไม่ได้ กลัวความรักที่ทุกคนให้มาจะเพียงแต่พอกันหรือไม่ ตนรักทุกคน สิ่งสำคัญคือต้องถือมั่นในชาติ ศาสน์ พระมหากษัตริย์ สำคัญที่สุด ตนเป็นทหาร ปฏิญาณตนมาคือ การไม่คดโกง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้อยากจะมาบอกว่าเพราะเหตุใดตนต้องอยู่ต่อ ที่ต้องอยู่ต่อเพราะมีหัวใจดวงเดียวกัน ต้องทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ตนเป็นทหาร แล้วก็ทหารทุกคน ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส หลายคนสงสัยว่าต้องการยิ่งใหญ่ต่อหรือ ซึ่งขอบอกว่าไม่ใช่ ที่ผ่านมามีอำนาจมาเยอะแยะแล้วตลอดชีวิตราชการ

แต่อำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ แล้วก็ความเป็นกลาง ตนไม่ได้ต้องการเป็นผู้มีอิทธิพล หรืออยากได้ผลประโยชน์อะไร และก็ยืนยันว่าไม่เคยรับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น รวมทั้งที่มายืนนี้เพราะเคารพในกระบวนการ ประชาธิปไตยของประเทศ ที่มาไม่ได้อยาก มาอยู่เพื่อตำแหน่งอะไรต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อบนพื้นฐานความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความรุ่งโรจน์ ที่ผ่านมาแก้ปัญหาประเทศมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ปัญหามีมาก หากมีโอกาสก็อยากจะแก้ต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพราะ การพัฒนาประเทศมี หลายมิติที่ตนก็ได้พยายามทำมาตลอด รวมทั้งการที่ได้มาร่วมมือกับพรรคนี้ หวังว่าจะสามารถทำได้เร็วขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อถือในเวทีโลก ต้องทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งก่อน เนื่องจากมีทุกอย่างอยู่แล้ว อย่าให้ใครมาทำลายความรักความสามัคคี คนไทยเป็นคนรักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ยังมีงานที่ตนต้องทำต่อก็เลยจำเป็นต้องต้องมายืนตรงนี้กับผู้บริหารพรรคทุกคน

ที่มาจากทุกภาค ด้วยเหตุว่าทั้งหมดคือประเทศไทยของทุกคน
ตนต้องการทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงให้ได้ ที่ผ่านมาโควิดเป็นปัญหาของทั้งโลกแต่พวกเรา สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เป็นตัวอย่างความร่วมมือ ของความเป็นคนไทยของทุกคน ที่ถึงแม้วันนี้หลายอย่างจะดีขึ้นแล้ว แต่ต้องอย่าประมาทวันหน้าอาจจะมีเกิดขึ้นอีกได้ ต้องตระเตรียม อาจจะก่อให้อึดอัด แต่ต้องพร้อม ต้องการเดินหน้าแม้กระทั่งได้

บิ๊กตู่ แย้มนโยบาย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ที่ตนตัดสินใจมาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

เนื่องจากว่าเห็นว่ามีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน คือรักสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์แบบเดียวกัน ที่ผ่านมานอนไม่หลับมาหลายคืน ว่าจะทำอะไรต่อไปอย่างไรดี ก็ต้องเลือกแต่วันนี้ราวกับละครบุพเพสันนิวาส ตนก็นึกไม่ออกว่ามาลงเอย ที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้อย่างไรแต่ คำว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นคำที่ตนเคยพูดไว้เอง

ซึ่งตนเชื่อถือในตัวของนายพีระพันธุ์ ตนเชื่อมั่นเพราะเป็นนักกฎหมายมาก่อน และก็ทำงานการเมืองมาหลายปี และทำงานกับตนมาและเป็นที่ขอคำแนะนำของตนเอง ตนรู้จักมานานว่า เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ แล้วก็นักการเมืองทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ที่จะร่วมกันทำงาน เป็นการทำงานด้วยกันของคนทุกรุ่นเพื่อประเทศไทยของทุกคน

“นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ รื้อถอน ไม่ใช่รื้อถอนทุกอย่าง ต้องดูว่าระเบียบ กฎหมายอะไรที่ต้องแก้ไขบ้าง ที่เขาเรียกว่ากฎหมายกิโยติน บางอย่างไม่ดีก็ต้องเลิก เพื่อให้ทันสมัย เป็นสากลนั่นคือการรื้อ สองคือลดภาระต่าง ๆ ของประชาชนในการดำรงชีวิต สามคือปลดเปลื้องภาระค่าครองชีพและหนี้สินด้วยรูปแบบใหม่ ๆ สร้างสังคมใหม่ของชาติเป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยวิธีการที่ชอบธรรมที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย โดยไม่ทิ้งภาระหน้าที่ไว้ให้คนข้างหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำผู้บริหารพรรคทั้งหมดร้องเพลง ศรัทธา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งนายพีระพันธุ์จะด้วยกันโบกธงไตรรงค์ รวมทั้งธงสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมปักลงบนเวที จากนั้นก็เลยได้นำผู้บริหาร รวมทั้งสมาชิกทุกคนด้วยกันชูมือ และมีการเคลื่อนธงรวมไทยสร้างชาติขนาดใหญ่ผ่านสมาชิกพรรคสู่บริเวณหน้าเวที ในตอนท้ายทั้งหมดได้ถ่ายภาพและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร่วมกันอย่างกึกก้องห้องประชุม

นับเป็นการเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ แล้วก็ยังนับว่าเป็นการเริ่มการเดินหน้าของพรรครวมไทยสร้างชาติในการเตรียมพร้อมสู้ศึกลงคะแนนที่ใกล้จะถึงนี้อีกด้วย

ดังนี้รายชื่อ สมาชิกพรรค รวมไทยสร้างชาติ ที่ขึ้นมาเปิดตัวภายในงาน ประกอบด้วย

รุ่นใหญ่

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี
นายชัชวาลล์ คงอุดม
นายชุมพล กาญจนะ
นพ.ปรีชา มุสิกุล
นายวิทยา แก้วภราดัย
นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน
นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์
นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ
พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา
นายสามารถ มะลูลีม
นายเสกสกล อัตถาวงศ์
นายโกวิทย์ ธารณา
นายเกรียงยศ สุดลาภา
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล

รุ่นใหม่

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์
รศ.(พิเศษ) ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง
นายชื่นชอบ คงอุดม
นายสยาม บางกุลธรรม
นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์
นางสาวศิรินันท์ ศิริพานิช
นายดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย
นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์
ว่าที่ ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์
นายวินท์ สุธีรชัย
นายอภิชา นิธิอนันตภร
นางสาวณัฐวรินธร บวรภัค

น่ารักมาก! “ซงจุงกิ” เดินทางถึงไทย ทักทายใกล้ชิด แฟนคลับ รอต้อนรับแน่นสนามบิน

ซงจุงกิ น่ารักมาก

ดารานำชายเกาหลีใต้ โด่งดัง ซงจุงกิ (Song Joongki) เดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ท่ามกลางเหล่าแฟนๆรอต้อนรับ

ทำเอาแฟนๆชาวไทย เซอร์ไพรส์สุด ๆ หลังจากช่วงเช้าวันนี้ (5 ม.ค.66) มีภาพของผู้แสดงนำชายเกาหลีใต้มีชื่อ “ซงจุงกิ” (Song Joongki) กำลังเดินทางมาประเทศไทย เพื่อทำหน้าที่ พิธีกรในงาน “Golden Disc Awards ครั้งที่ 37” ที่จะจัดขึ้นวันที่ 7 มกราคมนี้ ณ สนามกีฬาแห่งชาติราชมังคลากีฬาสถาน โดยมีแฟนคลับไปรอต้อนรับที่สนามบิน สุวรรณภูมิเป็นจำนวนมาก

ซงจุงกิเดินทางถึงไทย

ซึ่งทันทีที่ “จุงกิ” เดินทางมาถึงใน ช่วงบ่ายที่ผ่านมา แฟนคลับที่รอรอส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับ ด้านพระเอกคนดังก็ส่งยิ้มพร้อมทัก แล้วก็ยังได้เดินไปพบและก็พูดคุยกับแฟนๆ และยังแจกความน่ารักด้วยการทำมือประสานหัวใจกับแฟนๆอย่างใกล้ติด

 

ซงจุงกิเดินทางถึงไทย ทักทายแฟนคลับ

 

ทั้งนี้ สำหรับงานประกาศรางวัล “Golden Disc Awards ครั้งที่ 37” นอกเหนือจากที่จะมี “ซงจุงกิ” แล้ว ยังมีศิลปินและนักแสดงอีกมากมาย อาทิ PSY , J-HOPE (BTS) , (G)I-DLE , BEO , SEVENTEEN , TRESURE , NEW JEANS พัค โซดัม อื่นๆอีกมากมาย บินมาร่วมงานด้วย

ซงจุงกิมาไทย

เวทีลุกเป็นไฟ! สรุปรายชื่อศิลปิน ร่วมงานประกาศรางวัล Golden Disc Awards

Golden Disc Awards ครั้งที่ 37 เวทีลุกเป็นไฟ! สรุปรายนามศิลปิน ร่วมงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ ที่ประเทศไทย 7 มกราคม 2566 สนามราชมังคลากีฬาสถาน

Golden Disc Awards ครั้งที่ 37 งานประกาศรางวัล ครั้งยิ่งใหญ่ ที่สำคัญแห่งปี ของประเทศเกาหลีใต้ “The 37th GOLDEN DISC AWARDS IN BANGKOK” โดยในปีนี้มาจัดขึ้นที่ประเทศไทย ในวันที่ 7 มกราคม 2566 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

สำหรับศิลปินที่เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้เรียกว่า ทำให้เวทีประกาศรางวัล ลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน จัดเต็มทั้งยังนักแสดงแถวหน้า และศิลปินชื่อดังมากมาย อย่าพลาดโอกาส ที่จะได้เข้าร่วมงานและก็เจอกับการแสดงของเหล่าศิลปิน K-POP

รายชื่อศิลปินเข้าร่วมงาน

– SEVENTEEN

– STRAY KIDS

– TREASURE

– NEW JEANS

– LE SSERAFIM

– ENHYPEN

– IVE

– G-IDEL

– PSY

– J-HOPE

– BIG NAUGHTY

– BE’O

– YOUNHA

– JayPark

– LIM YOUNG WOONG

– Moon byul

– Kim MinSeok

ขณะที่รายชื่อของ MC พิธีกรของงาน ซองชีคยอง (Sung SiKyung) , อีดาฮี (Lee DaHee) , นิชคุณ (Nichkhun) แล้วก็ พัคโซดัม (Park SoDam) และที่สร้างความเซอร์ไพรส์ ให้แฟนคลับ คือมีรายชื่อของดารานำชายหนุ่มชื่อดัง ซงจุงกิ (Song Joongki) รวมทั้งนักร้องแล้วก็นักแสดงหนุ่ม อีจุนโฮ (Lee Junho) สมาชิกวง 2PM เข้าร่วมงาน Golden Disc Awards ครั้งที่ 37 ในครั้งนี้อีกด้วย

Golden Disc Awards เป็นพิธีมอบ รางวัลยกย่องความสำเร็จของศิลปิน รวมทั้งจัดขึ้นโดย มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ของวัฒนธรรมสมัยนิยม การศึกษาและทำการค้นพบศิลปินหน้าใหม่ และก็การสนับสนุนการเติบโต ของอุตสาหกรรมดนตรี

Song Joong Ki

โดยรางวัลหลักซึ่งเป็นที่นิยมและตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่สุดได้แก่ Album of the Year (Grand prize), Song of the Year (Grand prize), Album Bonsang (Main prize), Digital Song Bonsang (Main prize), Rookie Artist Award

สำหรับใครที่ต้องการ ไปเจอศิลปินที่ชื่นชอบ และก็ ยังไม่มีบัตร สามารถไปจองซื้อ เพื่อเข้าร่วมงานกันได้ทาง http://allticket.com ราคาบัตร : 6,500 (บัตรยืน) / 6,500 (บัตรนั่ง) / 5,800 / 5,200 / 4,500 / 3,800 / 2,800 และก็ 1,800 บาท

ซงจุงกิ

ผ่าดวงความรัก ซงจุงกิ โอปป้าเกาหลีสามีแห่งชาติ ปี 2566 ลุ้นแต่ง ไม่แต่ง?

ร่วมกรี๊ด ต้อนรับการมาของ ซงจุงกิ (Song Joong Ki) ดารานำชายซีรีส์เกาหลีสุดโด่งดัง จากหลายเรื่องที่คุ้นตาคุ้นหู ดังเช่นว่า Descendants of The Sun, Vincenzo และล่าสุดที่พึ่งจะจบไปคือ Reborn Rich แม้เส้นทาง การทำงาน จะราบรื่น ไปได้สวยมาตลอดหลายปี แต่เรื่องความรัก กลับเคยสะดุด หลังประกาศ หย่าร้างกับนางเอกดังแห่งยุค ‘ซง ฮเย กโย’ ปิดตำนานคู่รักซงซงในปี 2019

แต่ แต่ แต่ เมื่อไม่นานมานี้แฟนคลับ แม่ยกทั้งหลาย ก็ได้ยินข่าวดีจากซงจุงกิ อีกรอบ เมื่อเขาประกาศ ชัดเจนว่ากำลังดูใจ กับอดีตครูสอนภาษา ที่ตอนนี้กลายสถานะเป็นแฟนคนปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อย ชื่อว่า Katy Louise Saunders

เมื่อความรักจุงกิกำลังผลิบาน เราก็เลยอยากรู้ ว่าดวงความรักปีนี้ ของโอปป้าของเราจะเป็นอย่างไร มีลุ้นแต่งอีกครั้งหรือไม่ เส้นทางความรัก จะหวานชื่นให้เหล่าแฟนคลับชื่นใจแสดงความยินดีแต่น้ำตาคลอเบ้ากันถัดไปหรือไม่? มาผ่าดวงความ รักสามีแห่งชาติของพวกเราผ่านหมอดูมีชื่อ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา แล้วก็หมอลักษณ์ ราชสีห์

หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เปิดเปิดเผยว่า จุงกิ ซึ่งเกิดวันที่ 19 เดือนกันยายน 1985 อยู่ราศีกันย์ ปีนี้ดวงความรัก ในช่วงต้นปีหวานชื่นรื่นรมย์ แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางปี ชีวิตจะเข้าสู่โหมดการทำงาน ความรักอาจไม่ใช่ความสนใจหลักของชีวิต แต่ความสัมพันธ์ ยังคงราบรื่น อาจเจอความยุ่งวายจะไปลงกับการขยับขยาย ครอบครัวหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย

ด้านหมอลักษณ์ ราชสีห์ ฟันธงดวงราศีกันย์ด้านความรัก คิดว่าพื้นดวงราศีกันย์ปี 2566 จะมีเคราะห์ มีโศก มีภัย มีคู่ก็เลิกกับคู่ครอง มีเกณฑ์พลัดพราก ระวัง! คู่รักจะเจ็บป่วย

ดราม่าวงการบันเทิง ปี 2022 ประเด็นร้อน สนั่นโซเชียล

ดราม่าวงการบันเทิง

ดราม่าวงการบันเทิง แห่งปี 2022 แต่ละเรื่อทั้ง ดราม่าเกิน ไปมาก ทั้งไม่น่า จะ ดราม่า แต่ว่าบางเรื่องก็ ดราม่า แอบแซ่บไม่เบา ถือเป็นกระแสร้อน ทำให้วงการบันเทิง ในปีนี้ ไม่เงียบเหงา

หากจะพูดถึงเรื่องราว ดราม่าใน ปี 2022 ของวงการบันเทิง บ้านเรามีเรื่องมีราวให้ ต้องเกาะติดกันอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าแต่ละเรื่อง จะถูกกล่าวถึงและ วิพากษ์วิจารณ์ กันมากมาย แต่ก็เป็นกระแส ที่พัดผ่านมา เพื่อเป็น สีสันเพียงแต่ชั่วครู่ แค่นั้น รวบรวมดราม่าสั่นสะเทือนวงการบันเทิงในปี 2022 เรื่องราวเด่นๆเอามาย้อนเหตุกันอีกที จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย

โตโน่ ภาคิน

ดราม่าวงการบันเทิง โตโน่ ภาคิน กับ โครงการ “One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้”

เริ่มต้นดราม่าสนั่นโซเชียลมากที่สุด นั้นก็คือเรื่องราวการว่ายน้ำข้ามโขงของนักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน กับภารกิจช่วยเหลือสังคมในโครงการ “One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” เพื่อรับบริจาคเงินบริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้รพ.ทั้ง 2 ฝั่ง ไทยและลาว ทำเอาชาวเน็ตเสียงแตก มีทั้งฝ่ายชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของนักร้องหนุ่ม กับอีกฝ่ายที่แอนตี้อย่างหนัก วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการสร้างภาระหน้าที่ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ซะมากกว่า แถมยังมีคนในแวดวงบันเทิงร่วมวงดราม่าด้วย จนเกิดแฮชแท็ก #โตโน่ภาคิน ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งในช่วงเวลานั้น แต่เจ้าตัวก็มุ่งมั่นทำสิ่งที่ตั้งใจฝ่าทุกเสียงวิจารณ์มาได้สำเร็จ

ก้อย รัชวิน

ก้อย รัชวิน “Esther Bunny Women’s run presented by ATiRA”

ต่อด้วยสายวิ่งมาราธอนอย่าง นักแสดงสาว ก้อย รัชวิน จู่ๆก็ได้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อมีชาวเน็ตออกมากล่าวถึงโครงการวิ่งมาราธอนสำหรับผู้หญิง “Esther Bunny Women’s run presented by ATiRA” ที่สาวก้อยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ว่าค่าสมัครมีราคาสูง แต่ว่านำเงินไปบริจาคจำนวนน้อยเกินไป ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาโต้ว่าถูกบิดเบือนข้อมูล พร้อมนำข้อมูลจริงมาชี้แจงสยบดราม่าลงได้แบบนิ่ม ๆ

บอล เชิญยิ้ม โชค รถแห่

ดราม่าวงการบันเทิง บอล เชิญยิ้ม VS โชค รถแห่

จากเรื่องเข้าใจกันนิดหน่อย กลายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ สำหรับปมของ บอล เชิญยิ้ม กับ โชค รถแห่ ภายหลังจากทั้งสองโต้ตอบเรื่องผลประโยชน์การทำงานกันไปๆมาๆผ่านโลกออนไลน์ กระทั่งกลายเป็นดราม่าร้อนระอุ ก่อนโชคจะทนแรงกดดันจากสังคมไม่ไหว ออกมาประกาศขอยุติบทบาทงานคู่ กว่า 50 คิว ที่รับไว้คู่กับบอล สุดท้ายรายการดังทำหน้าที่เป็นคนกลาง นัดให้ทั้งสองคนออกมาเคลียร์ใจ กระทั่งสามารถจบปมดังกล่าวลงได้ด้วยดี

นิ้ง ชัญญา พลอย หอวัง

นิ้ง ชัญญา VS พลอย หอวัง

ส่วนดราม่านี้แอบแซ่บไม่เบา หลังนักแสดงสาว นิ้ง ชัญญา ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันไม่ได้เป็นบุคคลที่สาม ทำความรักของนักแสดงรุ่นพี่ พลอย หอวัง กับแฟนหนุ่ม ทู สิราษฎร์ ต้องพังทลายลง ด้านพี่สาวของพลอย อย่าง คริส หอวัง ก็ได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ทันทีว่า “วันนั้นที่สารภาพกับพี่…ไม่เหมือนที่พูดวันนี้นี่คะ” ทำเอาชาวทวิตเตอร์ลุกฮือ พากันเดาว่าสาวคริสตั้งใจจะสื่อถึงเรื่องราวความรักของน้องสาวหรือเปล่า งานนี้สายสืบทั้งหลายออกปฏิบัติการขุดค้นเรื่องราวดังกล่าว จนถึงทวิตเตอร์เดือดกันเลยทีเดียว

ส้มเช้ง สามช่า

ส้มเช้ง สามช่า ไม่ได้ไปงานบวช โหงวเฮ้ง ลูกชาย เท่ง เถิดเทิง

เรื่องในครอบครัวก็กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลจนได้ เมื่อมีคนสงสัยเพราะอะไรน้องสาวอย่าง ส้มเช้ง สามช่า ถึงไม่ได้ไปร่วมงานบวชของ โหงวเฮ้ง ลูกชาย เท่ง เถิดเทิง ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆร้อนถึงส้มเช้งกับลูกสาวรีบตอบเรื่องที่น่าสงสัยดังกล่าวผ่านช่องยูทูปของตน ว่าไม่ได้ถูกเชิญชวนไปร่วมงาน เพราะว่าฝ่ายบ้านพี่ชายบอกว่าจะจัดงานเล็กๆรวมทั้งเรื่องของเหตุการณ์โควิดจึงไม่ได้ไป ทำให้ยิ่งเกิดดราม่าสงสัยในความสัมพันธ์ของพี่น้องมีปัญหาอะไรกันหรือไม่ โดยทั้งคู่ได้ออกมาปฏิเสธประเด็นแตกหัก ว่าพี่น้องไม่เคยทะเลาะกัน แค่ลูกๆน้อยใจงอนกันตามประสาวัยรุ่นเพียงแค่นั้น

บีม กวี

ครอบครัวของ บีม กวี

แม้แต่การเลี้ยงลูกก็เจอดราม่าไม่พัก สำหรับคุณพ่อ บีม กวี หลังจากภรรยา ออย อฏิพรณ์ คลอดลูกสาวฝาแฝด น้องอัยวา กับ น้องอัญญา ออกมาไม่ได้นาน ก็ถูกคนวิจารณ์เรื่องจับลูกมาถ่ายรูปกับสินค้า กลายเป็นท็อปปิกดราม่าลูกเพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน ต้องมาช่วยพ่อแม่ขายของซะแล้ว งานนี้พ่อบีมเลยออกโรงบอกนานาจิตตัง การที่ลูกจะช่วยพ่อแม่ขายสินค้าของครอบครัว ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นการเมินเสียงวิจารณ์สไตล์คุณพ่อลูกสี่ ที่ผ่านประสบการณ์รับมือมาแล้วหลายดราม่า

โก้ วศิน ถูกปลด จากช่อง 7

โก้ วศิน ถูกปลด จากช่อง 7

อยู่ๆก็ถูกต้นสังกัดประกาศยกเลิกสัญญาแบบฟ้าผ่า สำหรับพระเอกหนุ่ม โก้ วศิน ซึ่งทำให้เกิดดราม่าร้อนในโลกโซเชียล ชาวเน็ตคอมเมนต์ถกกันเดือด โยงปมถูกปลดเพราะว่าหนุ่มโก้ข้ามช่องไปออกรายการร้องเพลงชื่อดังหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมายอมรับเกิดจากการสื่อสารผิดพลาดกับทีมงานรายการ ทำให้เทปดังกล่าวออกอากาศก่อนถึงกำหนดหมดสัญญากับต้นสังกัด ก็เลยส่งผลให้ถูกยกเลิกสัญญาในทันที แต่หลังจากหนุ่มโก้ผลันตัวเป็นนักแสดงอิสระ กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมงานรุม ปังส่งท้ายปีไปเลย

ดราม่าวงการบันเทิง ใหม่ ดาวิกา และ พีพี กฤษฏ์

ดราม่าวงการบันเทิง ของแฟนคลับ ใหม่ ดาวิกา และ พีพี กฤษฏ์

จบท้ายด้วยดราม่าที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่กลายเป็น สร้างความไม่พอใจ หลังมีผู้ใช้ ทวิตเตอร์ รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ ตำหนิ นางเอกสาว ใหม่ ดาวิกา ที่เรียก นักแสดง รุ่นน้อง พีพี กฤษฏ์ ว่า ลูกสาว และ น้องสาว ทำเอาแฟนๆ ทั้งสองฝ่ายฟาดกัน ยับผ่าน โซเชียล ก่อนไฟกอง นี้จะมอดดับลง เมื่อใหม่ กับ พีพีได้ออกมา ชี้แจงถึง ประเด็น ดังกล่าว ซึ่งทั้งสองนั้น มีมิตรภาพ ที่ดีต่อกัน จึงไม่ได้ ติดใจอะไรกับเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้น

 

แฟนมือยิงบนโรงพักปล่อยโฮ ขอโทษแฟนผู้ตาย ลั่นสูญเสียทั้งคู่ ไรเดอร์เล่าความจริงอีกมุม

มือยิง

มือยิงมือยิงมือยิงแฟน มือยิง บนโรงพักปล่อยโฮ ขออภัยแฟน ผู้เสียชีวิต ลั่นสูญเสียทั้งสอง ไรเดอร์เล่าความจริงอีกมุม จากปมการไม่ตรงกันเหตุรถชนรวมทั้งทำร้ายร่างกายกัน

กรณี “ม่อน” ถูก “พี”  มือยิง ใช้อาวุธปืนยิงกระทั่งเสียชีวิตบน สถานีตำรวจหลักสอง ขณะพนักงานสอบสวนนัดทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย ด้วยเหตุว่าขัดแย้งกันจากเหตุรถชนและก็ทำร้ายร่างกายกัน ด้านผู้เสียชีวิต ถูกโซเชียลกระหน่ำว่าเหมาะสมตายแล้ว เนื่องจากไปทำเขาก่อน ทำให้ครอบครัวเกิด ความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ต้องการขอความเป็นธรรม

มือยิง บนโรงพักแฟน

รายการโหนกระแส มือยิง วันที่ 19 ธ.ค. 65

ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ คุณปัท ภรรยาผู้เสียชีวิต, ทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความของครอบครัวผู้เสียชีวิต, ทนายเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ หรือ ทนายเพชร มาดูแลคดีนี้อีกคน , ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตร์อารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ตั้งแต่เริ่มแรกเกิดอะไรขึ้น?

ปัท : ตั้งแต่ 16 ก.ย. 5 โมงเย็น หนูกลับจากไปเที่ยว ไปกันหลายคนในกลุ่ม ต่างคนต่างแยกกันกลับ ในรถมี 5 คน มีแฟน ป้า หลานอายุ 20 ผู้ชายแล้วก็แฟนหลานด้วย จนกระทั่ง จุดยูเทิร์น แถวเพชรเกษม รถคู่กรณีเปิดเลนที่สอง ปกติกลับรถมีแค่เลนเดียว แต่เขามาเป็นเลนที่สอง แฟนหนูมาทางตรง เขาก็ปล่อยให้รถไหลไปปกติ ไม่ได้ให้คู่กรณีกลับรถ

หลังเขายูเทิร์นได้ เกิดอะไรขึ้น?
ปัท : เขาก็ขับตามค่ะ แฟนก็กล่าวว่าดูรถคันนั้นดิ เปิดไฟสูงแล้วมาจี้ตูด หนูก็มองดูกระจกหลัง ก็เออว่ะ มันเปิดไฟสูงเพราะเหตุไรวะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่มีจุดนึงที่หนูวิ่งเลนขวา เขาวิ่งเลนซ้ายแล้วมาปาดหน้าหนูอีกที เขาจงใจปาดหน้าค่ะ แฟนหนูก็เริ่มไม่พอใจ มาปาดหน้าเฉียบพลัน จากนั้นก็มีการปาดกันไปปาดกันมา จนถึงมาถึงจุดเกิดเหตุที่ต่อยกันค่ะ แฟนหนูเหมือนเขาอยากให้จอด แต่เขาไม่จอด พอถึงจุดที่ตรงนั้นเสมือน ทางคู่กรณีพยายามทำให้หนูจอด เข้ามาแทรกข้างเพื่อจอด แฟนหนูเลยเปิดกระจก ปาขวดลิโพไปขวดแรก เฉี่ยวหน้ารถไป ไม่โดนรถนะคะ เท่านั่นแหละค่ะ เขาก็จอดรถ และก็เปิดกระจกถือวิดีโอถ่าย แฟนหนูเลยโยนขวดที่สองเข้าไปในรถ โดนโทรศัพท์เขาค่ะ

จากนั้นเขาเอาขวดเดิมที่โยนไปปากลับมา โดนมั้ย?
ปัท : ไม่โดนค่ะ แฟนหนูก็ลงจากรถเลย ไปมีเรื่องตามคลิปเลย คือไปต่อยค่ะ หลานอายุ 20 ลงไปห้าม ไปแยกค่ะ ไม่ได้รุม

พี่สมเกียรติเข้าไปดูเรื่องนี้ยังไง?
สมเกียรติ : หลังจากตรงนี้ ทางคนตายก็ติดต่อประสานงาน ผมได้ติดต่อสถานีตำรวจเพื่อขอนำผู้เสียชีวิตไปมอบตัว ไปสารภาพ แล้วนัดกับตร. ไม่มีการจับนะฮะ ที่บางข่าวสารกล่าวว่ามีการจับกุมตัวนี่ไม่จริงนะ สองพอไปถึงโรงพัก ตร.มีการตรวจร่างกาย ทีกล่าวถึงว่ามีการใช้สนับเขาตรวจหมด ปรากฏว่าไม่มีร่องรอยการใช้สนับ

มือยิง บนโรงพักแฟนปล่อยโฮ

ผู้ก่อเหตุ อ้างว่าผู้เสียชีวิตใช้สนับไปต่อยเขาก่อน?

สมเกียรติ : ไม่มีครับ มือผู้เสียชีวิตลักษณะจะปูดขึ้นมาหน่อยนึง ปกติหากใช้สนับต่อยต้องเป็นแผลฉีกจนขาด แต่ที่เห็นเป็นแผลบวม เกิดจากการกระแทก ไม่ได้เกิดจากการใช้สนับ จากนั้นมี การนัดสนทนากัน ซึ่งผู้เสียชีวิตสารภาพตลอด เขาสำนึกแล้ว ยอมทุกอย่าง เพียงแค่แต่ค่าเสียหาย มันตกลงกันไม่ได้ จนมาเกิดเหตุในวันนั้น

มีการพูดคุยพูดจากันยังไง?
ปัท : ไม่เคยเจอต่อหน้าค่ะ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เจอกัน วันต่อยก็ไม่ได้ขึ้นโรงพัก ตอนไปมอบตัวก็แยกกันไป

ล่าสุดเขาเรียกค่าเสียหาย 9 ล้าน เนื่องจากว่ากระจกแว่นเขาแตก รวมทั้งน่าส่งผลกับตาเขา ทำให้มองดูยากตอนกลางคืน?
ปัท : หนูพึ่งจะทราบว่ามีกระจกเข้าตา เพราะตอนแรกไม่มีการแจ้งว่า กระจกเข้าตา แจ้งแค่ว่ามีบาดแผลที่ตา ที่มองเห็นในรูป ตาเขาราวกับช้ำเลือด หนูรู้แค่นั้นค่ะ

พี่ได้ไปตามมั้ยเบื้องต้น?
สมเกียรติ : ได้คุยกับผู้ก่อเหตุ เราแจ้งว่าทางพวกเราผิด ที่ทำร้าย ร่างกาย มีค่าเสียหายเท่าไหร่ให้ลองคำนวณมา ก็คุยกันปกติ ไม่รู้สึกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุยสนทนาปกติไม่มีอะไรเลย แต่ค่าเสียหาย 9 ล้านนี่เพิ่งจะรู้ มันเป็นค่าเสียหายที่สูงเกิน

จนล่าสุด 3 เดือนผ่านไป เกิดอะไรขึ้น?
ปัท : ระหว่างนั้นก็ให้ความร่วมมือตร.ปกติ นัดไปสอบปากคำเพิ่มเติม นัดไปตรวจสภาพรถ ไปตามนัดทุกคราวปกติเลยค่ะ แต่จะมีครั้งนึงที่เขาให้ไปส่งตัวอัยการ ทางตร.เขาแจ้งว่ายังส่งตัวอัยการ ไม่ได้ หนึ่งสอบปากคำยังไม่เสร็จเรียบร้อย สองยังไม่ตรวจสภาพรถ ทางคู่กรณีไม่ยอม เอารถมาตรวจสภาพรถค่ะ ราวกับต้องตรวจพร้อมค่ะ

วันที่เกิดเหตุ ได้ห้ามม่อนมั้ย?
ปัท : ห้ามค่ะ แต่เสมือนตอนนั้นเขาโมโหค่ะ พวกเราก็ผิดที่เขาโมโหค่ะ

สมเกียรติ : กรณีที่ฝ่ายนั้นกล่าวถึงว่าขับแล้วหนี ไม่ใช่นะ สภาพที่เขาแยกจากกันในจุดเกิดเหตุ ฝั่งผู้เสียชีวิต ขับรถขึ้นทางด่วน พอลงทางด่วนก็ไปสถานีตำรวจ ลงบันทึกประจำวันว่ามีอุบัติเหตุกับคู่กรณีนี้ และนำมาแสดง กับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันว่าไม่ได้หนี ไม่ได้ทำร้าย ร่างกายแล้วหนี พอลงพื้นที่ได้ตรงไหนก็ลงประจำวัน แล้วกลับมาติดต่อภายในคืนนั้นเลย

ฝั่งผู้ก่อเหตุตอนนี้อยู่ในเรือนจำ พยายามติดต่อเมียผู้ก่อเหตุ แต่แกไม่รับสาย ก็เลยติดต่อไม่ได้ ก็ต้องรอฟังอีกมุมบอกด้วย วันนั้นที่เกิดเหตุยิงกัน เกิดอะไรขึ้น?
ปัท : วันนั้นตร.นัดไกล่เกลี่ยปกติ หนูก็ไปตามนัดปกติ มีพี่ทนายไปด้วย ทางพี่ตร.นัดบ่ายโมง หนูไปถึงสน.บ่ายโมงนิด ๆ แต่ทางคู่กรณียังไม่มา มาถึงประมาณบ่ายสองโมงครึ่งกว่า ๆ พอมาถึงยังไม่ได้กล่าวอะไร ประมาณสิบนาทีได้ เขาก็ยิงเลยค่ะ ตร.ถามไถ่เรื่องค่าเสียหายที่ เขาเรียกร้องทางหนู หลังจากนั้นตร.ถามอะไรต่อไม่แน่ใจ ทางทนายเขาเลยออก ไปคุยข้างนอกกับคู่กรณี ข้างในก็มีหนู ลูกสาว สามี พี่ทนายรวมทั้งแฟนทนาย แล้วก็แฟนคู่กรณี เขาออกไปไม่นาน ประมาณ 5 นาทีก็เดินกลับเข้ามา ทีนี้ทางเมียผู้ก่อเหตุก็ราวกับถามว่า ไม่คิดจะขออภัยเลยเหรอ แฟนหนูนั่งหันหลังให้ เขาเหมือนหันกลับมาว่าขออภัยแล้วกลับไปอ่านเอกสารต่อ เพราะมีเอกสารที่ตร.ให้อ่านและก็เซ็น เท่านั้นแหละค่ะ พูดไม่ทันจบคำ เขาก็โดนยิงรวมทั้งล้มลงไปเลย

มีการทะเลาะอะไรมาก่อนมั้ย?
ปัท : ไม่ค่ะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย ตร.ก็นั่งอยู่ด้วยค่ะ

คุณแอน ภรรยาคุณพี ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่าไม่เคยขอโทษเขาเลย?
ปัท : ก็ไม่เคยเจอกันซึ่งๆหน้าเลยค่ะ วันนั้นเป็นคำสุดท้ายที่เขาถามว่าไม่คิดจะขอโทษเลยเหรอ แฟนหนูก็เลยหันมาขอโทษค่ะ ยังกล่าวไม่ทันจบคำดี เขาก็ยิงเลยค่ะ หนูตกใจ หันไปมองเห็นตอนเขาจ่อยิงพอดี แฟนหนูล้มไปแล้ว ลูกหนูก็ร้อง หนูสติแตกแล้วค่ะ

ตร.ทำอย่างไรตอนนั้น?
ปัท : เขาก็ตะลึงงัน อึ้งอะไรอยู่ไม่รู้ แต่ตอนนั้นหนูไม่ได้สนใจตร. แล้วค่ะ

ตอนแรกมีข่าวสารว่าแฟนคุณพีผู้ก่อเหตุใส่กันเสียง ใครใส่กันแน่?
ปัท : หนูไม่ได้เห็นเองค่ะ มีภรรยาพี่ทนาย เขาเป็นคนเห็นว่าทางคู่กรณีเขาใส่กันเสียง ก็คิดว่าเขาจัดแจงการ ไม่ถ้าเช่นนั้นคงไม่อยู่ที่หู และก็ลูกกระสุนปืนคงไม่คากระบอกอยู่

คนก็ว่าฝั่งคุณว่าเหมาะสมแล้ว ไปทำเขาก่อน พอถึงเวลาก็กล่าวว่าคนตายเป็นคนดีทุกคราว?
ปัท : หนูไม่ได้เสพข่าวสารเองค่ะ ทางเพื่อนหรือญาติโทรมากล่าวว่าเป็นแบบนี้ ๆ นะ หนูไม่ได้สนใจอะไรเลยค่ะ

อยู่ในสายกับ “คุณแอน” พอจะทราบเรื่องเหตุการณ์ที่ต่อยต่อยกันครั้งแรกมั้ย?
แอน : จากที่พีให้ปากคำกับทางตร. เขากล่าวว่าเขาขับรถอยู่เลนขวา กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เขาไปส่งของเสร็จที่เพชรเกษม หนูโทรบอกเขาว่าทานข้าวอะไรมั้ย เขาส่งของเสร็จพอดี พูดว่าจะกลับมากินข้าวที่บ้าน พอขับไปปรากฏว่า มีรถมาประกบข้างเขา แล้วโยนขวดชูกำลังใส่หน้ารถเขา เขาก็เลยจอด เขาเปิดกระจกจะพูดคุยด้วย ก็ตามคลิปเลยค่ะ

วันนั้นคุณพีเองอาการเป็นยังไง?
แอน : ตาทั้งสองข้าง ข้างในตาขาวมีแต่เลือด ตาด้านซ้ายปิด ใช้การไม่ได้ มันลืมตาไม่ขึ้น ด้านขวามีรอยบอบช้ำ ลืมตาได้แค่นิดเดียว เกือบจะลืมไม่ได้ ดั้งจมูกหัก ฟันหักค่ะ

กระจกจากแว่นไปแทงตาหรือไง?
แอน : กระจกไม่ได้แทงตา คงจะโดนแล้วหลุดตั้งแต่หมัดแรก แล้วโดนย้ำ ๆ บ่อย ๆ อีกหลายหมัด

ผลระยะยาวกับคุณพี เป็นอย่างไร?
แอน : ตาของพี ในม่านตาฉีกขาดข้างใน ตอนแรกหมอดูลึกกว่านั้นไม่ได้ เนื่องจากว่าเกิดการบวมไปหมดเลย หมอพูดว่าให้ลดการบวมก่อน แล้วค่อยมาดูกันว่าข้างในมีอะไร หยุดไปเป็นเดือนค่ะ พอตาเริ่มยุบไปส่งก็เจอว่ารูม่านตาฉีกขาด ก็ทำเลเซอร์เพื่อสมานแผล

ล่าสุดวันเกิดเหตุ ที่สถานีตำรวจ มันเกิดอะไรขึ้น?
แอน : จริง ๆ เราต้องการเรียกไปพูดจานี่แหละค่ะ เพื่อให้เขาแสดงความรับผิดชอบ ว่าเขาทำร้าย ร่างกายแฟนพวกเรา ทีนี้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ กระทั่งหนูติดต่อนักข่าวไปวันที่ 30 วันนั้นไม่มีอะไรติดต่อเรา ต้องให้ตร.เป็นคนช่วยดูกล้อง หนูก็ไปดูกล้องด้วย หลังเกิดเหตุ พีเขาขับรถตามเพื่อคู่กรณีหยุดรถแล้วมารับผิดชอบตัวเขา ที่ทำแล้วหลังจากนั้นก็ขับรถหนีไป ทีนี้เขาก็บีบแตรตรงนั้น เพราะเหตุว่า มีป้อมยามอีกที่ตร.เดอะมอลล์บางแค เขากะให้จอดนั่นเพื่อให้คุย แต่คู่กรณีไม่หยุดคุย ขับรถแทรกเราแล้วก็ไปเลย จนพวกเราขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หนูขอบคุณที่เขาทำข่าวสารให้กระทั่งได้มีการติดต่อกลับมา 2-3 วัน เขาให้ทนายโทรมา บอกว่าจะให้พูดคุย คือข้อมูลพวกนี้ ต้องการที่จะให้ทางคุณตร. เขาเป็นคนอธิบายอีกทีแล้วกัน

มือยิงขอโทษแฟน

เหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ คุณแอนรู้มั้ยคุณพีพกปืนไปด้วย?

แอน : ไม่รู้เลยค่ะ เพราะเหตุว่าเราตั้งใจไปเจรจา ให้เขารับผิดชอบ เราบ้าง (เสียงสั่นเครือ) พวกเราสูญเสียไปเยอะแยะ เขาเจ็บมากค่ะ มันสาหัส ต้องพักรพ. หยุดนับเป็นเวลาหลายวันไม่ได้ทำการทำงาน ตาเป็นอวัยวะที่พวกเราต้องใช้และก็บอบบางมาก มันมีเอฟเฟกต์ตามมาเยอะแยะมาก มีอาการตอนกลางคืน ที่เสมือนฝ้า แล้วก็นอนไม่หลับ เจ็บปวด หลาย ๆ อย่างค่ะ

จุดพีคที่ทำให้คุณพีชักปืนมายิงเกิดอะไรขึ้น?
แอน : ทนายฝั่งเราเปิดถามฝั่งนู้นก่อนว่ามีตัวเลขมั้ย ที่จะรับผิดชอบ ค่ารักษา ค่าอะไรหลาย ๆ อย่าง ทางนู้นก็ตอบว่าไม่มี ทีนี้ตร.ก็เลยกล่าวว่าหากอย่างนั้น ทางเราเปิดตัวเลขไปได้เลย พวกเราก็เลยเปิดไป 9 ล้านค่ะ จากนั้นทางตร.ก็แจ้งประมาณว่ามันคงไม่ถึงขั้นนั้น ก็จำคำกล่าวไม่ได้ค่ะ แต่หนูก็ไม่ได้จำภาพได้ชัดเจนทุกคำว่าเขาตอบโต้อย่างไร แต่ทางคู่กรณี หนูถามคำถามอะไรไป เขาไม่ตอบ เขามีตอบอยู่ครั้งนึงว่าเพราะอะไรคุณถึงรังควานแฟนหนูได้รุนแรงขนาดนี้ เขาบอกเหตุผลของเขาว่า รถแฟนเราปาดหน้าเขา เปิดไฟสูง แล้วก็หยุดบอก เพราะว่าหันไปดูทางพี่ผู้หญิงอีกคน ซึ่งไม่รู้เป็นใคร เขาก็เลยหยุด หนูก็ถามต่อว่าพี่รู้มั้ยพี่ทำผิด เขาก็เงียบ หนูก็ถามว่าแล้วพี่รับผิดชอบอะไรกับแฟนหนูได้บ้าง เขาก็เงียบ ก็เลยบอกว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุจนกระทั่งวันนี้ที่พวกเรามาพูดจากัน พี่ไม่เคยโทรศัพท์หาหนูเลย พี่ให้แต่ทนายโทรศัพท์หาหนูครั้งเดียว แล้วไม่มีการแสดงความเสียใจ อยากรับผิดชอบอะไรเลย เราไม่ได้ไม่ประนีประนอมนะคะ เพียงแค่คุณกล่าวว่าค่ารักษามีเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ผมให้คุณก่อนเท่านี้ ผมมีอยู่แค่นี้ ผมขออภัย สิ่งที่พวกเราอยากได้คือตรงนี้ แต่มันไม่มีเลย

คุณพี เอาปืนมายิงถูกจุดไหน?
แอน : หนูไม่ทราบค่ะ เพราะว่าหนูมองเพียงแค่คู่กรณีเพื่อถามคำถามเขาอย่างเดียว จากนั้นได้ยินเสียงปืน สนั่นหู หูอื้ออึงไปเลย

ทนายเพชรเป็นผู้แทนทนายสอง?

ทนายเพชร : ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจ กับภรรยาผู้ก่อเหตุ รวมทั้งผู้เสียชีวิต ในมุมมองทนายและเมียผู้เสียชีวิต ตอนนี้ภรรยาผู้เสียชีวิต โดนโจมตีหนักมากในโซเชียล มีการไปสร้างข่าวสารว่าผู้เสียชีวิต ควรตายแล้ว ไปก่อเหตุทำร้าย เขาก่อน ซึ่งนี้อยากให้ย้อนไปที่อ้างว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ก่อเหตุก่อน ที่ภรรยาผู้ก่อเหตุอ้างอย่างนั้น คนพวกเราหากขับรถกันไปดี ๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีการไปปาขวดกันมั้ย อันที่จริงแล้วฝั่งพวกเราเองก็มีพยานยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีการขับรถในลักษณะยั่วยุ เปิดไฟสูง พยายามปาด พยายามท้าทายจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ปาขวด แล้วมีเหตุการณ์ชกต่อยทำร้ายกันจริง ส่วนผิดก็ผิดแน่ ยอมรับ แต่ที่พยายามสร้างประเด็นตามเฟซบุ๊ก ตามสื่อต่าง ๆ ว่าใช้สนับมือต่อย หรือรุมทำร้าย หลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเหตุว่าใบรับรองหมอครั้งแรก ก็ไม่มีการกล่าวว่าใช้สนับมือต่อย มีการไปขอใบรับรองแพทย์ใหม่มา อ้างถึงว่าสนับมือต่อย ก็อาจเกิดจากการเล่าให้แพทย์ฟัง

เพราะเหตุว่าผู้ก่อเหตุสวมแว่น แล้วใบรับรองหมอระบุว่าถูกของแข็งกระทบ ซึ่งคาดคะเนว่าน่า จะถูกแว่นมากกว่า หรือออกข่าวสารว่าไปรุมทำร้ายเขาก่อน เหมาะตายแล้ว หลักฐานในสำนวน พนักงานสอบสวน สอบพยาน ที่เป็นคนถ่ายคลิปในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าน้องชายที่ลงไปห้าม และไม่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันทำร้าย ร่างกาย คำว่าก่อเหตุก่อน ก็ต้องดูว่าเหตุทำร้าย ครั้งนี้ คุณมีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า ส่วนที่พูดว่าตาบาดเจ็บมาก สูญเสียการมองมองเห็น นี้ไม่มองเห็นใบรับรองหมอ ผมไม่ยืนยัน แต่สุดท้ายแล้วมั่นใจว่าพวกเรามีกระบวนการ ตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ต้องการที่จะให้ใช้สื่อโซเชียล หรือการสร้างความเป็นธรรมในการใช้อาวุธปืน ตัดสินคนอื่นโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ผมในฐานะประธานชมรมทนายความจ.ชลบุรี รู้จักท่านที่ถูกยิงเป็นการส่วนตัว การที่คุณไปยิงทนายความด้วย โดยคุณไม่รู้จักเขามาก่อนเลย ไม่มีการแสดงความข่มขู่ อะไรคุณมาก่อนเลย กล่าวคุยกันด้วยดี ตามมาตรฐานวิชาชีพ คุณไปยิงเขา คุณมีสาเหตุอะไร ครอบครัวเขาก็เดือดร้อน วันนี้ที่ต้องการฝากไว้มีเท่านี้

แฟนปล่อยโฮ ขอโทษแฟนผู้ตาย
คุณพี ไม่ได้ยิงแค่คุณม่อนคนเดียว แต่ยิงทนายความอีกคนนึงด้วย ซึ่งทนายความไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ทนายความเพิ่งมาว่าความให้คุณม่อนครั้งแรก เลยเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นมา เรื่องตอนนี้ไปกันใหญ่โตแล้ว เนื่องจากว่ามีทั้งสองมุมมองดูที่พูดคุยกัน ถ้าหากกล่าวในมุมการสู้คดี เขาจะไปต่อสู้คดีมุมไหน?
ธนกฤต : ต้องการให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ผู้ใช้รถใช้ถนนหนทาง หากทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎจราจร รวมทั้งใช้ความใจเย็น เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น เรื่องนี้เกิดจากความใจร้อน และเกิดความสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งบ่อยครั้งเช่นเดียวกัน ในขณะนี้ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อาจอัดคลิปวิดีโอแล้วให้ตร.ไปดำเนินการได้ ถ้าหากใช้วิธีการที่เกิดขึ้นก็เป็นอันตราย

มุมคุณแอนจะเอายังไงต่อไป?

แอน : ตอนนี้ถ้าแฟนพี่คมสันอยู่ที่นั่น หนูก็ฝากขออภัย ตอนแรกหนูตั้งใจจะโทรศัพท์ไปหาวันนี้แหละค่ะ (ร้องไห้) หนูขอโทษจริงๆค่ะ หนูไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียกับใครทั้งนั้น ไม่ต้องการที่จะให้เกิดขึ้นอยู่กับใครหลายๆคนไม่ว่าจะตัวพี่หรือตัวหนู เนื่องจากว่าเราสูญเสียทั้งสอง หนูก็ไม่ได้อยู่กับแฟน เขาอยู่ในคุก พี่ก็ไม่ได้อยู่กับแฟนพี่ (ร้องไห้) ไม่ต้องการที่จะให้เกิดการสูญเสีย หนูขออภัยจริงๆหนูจะพยายามเยียวยาเท่าที่หนูแก้ไขได้ อะไรที่หนูทำได้ หนูจะพยายาม (ร้องไห้)

เพราะอะไรวันนั้นพี่สมเกียรติไม่ได้ไป กลายเป็นทนายอีกคน?
สมเกียรติ : ผมอยู่สกลฯ เขาเลยติดต่อทนายสรณ์ ซึ่งเขาพึ่งไปครั้งแรก ไม่ได้ทราบเรื่องนี้เลย

ล่าสุดมีไรเดอร์คนนึง ถ่ายคลิปวันต่อยกัน ทราบสาเหตุวันต่อยกัน สาเหตุที่ มือยิง  ยิงเขา ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาช่อง 3 คุณดูอยู่แล้วก็ขี่มาเหรอ?
แอน : ใช่พี่เอมั้ยคะ

เชิญคุณเอ ไรเดอร์ อยู่ในที่เกิดเหตุ คุณดูอยู่และก็ขี่มอเตอร์ไซค์มา คุณอยู่ในเหตุการณ์ มันเกิดอะไรยังไง?
เอ : ขอแสดงความเสียใจกับทางน้องนะครับ ผมคิดอยู่หลายอย่างว่าคลิปที่ผมให้เป็นหลักฐาน เป็นจุดให้น้องต้องมาเสียชีวิตหรือเปล่า

ปัท : ขอบคุณพี่จริง ๆ ค่ะ ที่มีคลิปจากพี่ รวมทั้งพี่ให้ปากคำ ถ้าไม่ได้พี่วันนั้น บางเรื่องจะไม่กระจ่างค่ะ หลานเขาอาจติดร่างแหไปด้วยค่ะ ตอนแรกเขาไม่ได้อะไรเลย

เอ : ทางคุณปัทไม่เคยเจอเลย เห็นที่น้องเขาไปห้ามเท่านั้นเอง

แล้วคุณแอนรู้จักคุณได้อย่างไร?
เอ : คุยกับคุณพีร์ คุยมาตลอดครับ

แอน : หนูก็ขอบคุณ ที่วันนั้นพี่ติดตามถ่ายคลิปส่งให้พีร์ และก็เรียกกู้ภัยให้เขาวันนั้น ถ้าไม่ได้พี่หนูก็ไม่ทราบเขาจะมีที่พึ่งที่ไหน (ร้องไห้)

คุณต้องการบอกอะไร?
เอ : วันที่เกิดเหตุ ผมเป็นไรเดอร์ค่ายสีส้มค่ายนึง ผมรับออเดอร์จากลูกค้า ไปที่จังหวัดนครปฐม ผมกำลังกลับ มันเป็นช่วงเย็นที่รถติดมาก มาถึงจุดเกิดเหตุ ตรงข้ามปั้มบางจาก น่าจะเช่นเดียวกับช่อง 3 เก่า มุ่งหน้าเดอะมอลล์บางแค เดิมทีที่ผมมองเห็น ผมมองเห็นรถเก๋ง ลักษณะเบรกตัวโก่ง ล้อไปทางรถกระบะ แล้วรถกระบะฝั่งคุณพี ราวกับเปลี่ยนช่องทางมาทางด้านซ้าย ราวกับปาดหน้ากัน ถูกจุดนั้นมีการเถียงกันโวยวาย มีแกร็บขวางรถอยู่ เขาก็ดู แต่พวกเราตามแกร็บไม่ได้ สิ่งที่ผมได้ยิน น้องม่อนกล่าวว่ามึงกวนตีนกูเหรอ แล้วพีบอกว่าผมไปกวนตีนคุณตอนไหน พีตะโกนออกมา ม่อนก็ใส่เลย แต่ม่อนลงจากรถก่อนผมถือกล้องขึ้นมา เราเสมือนไทยมุง ที่อยู่ที่ตรงนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น ใส่แล้ว 3 ที เสียงสนั่นเลย ผมไม่มีความเห็นว่าเขาใส่สนับอะไรนะ แต่เห็นว่าต่อย น้องพีก็ร้องลั่นเลย ผมมองว่าอ้าว ทำร้ายกันแล้วเว้ย แล้วผมมองเห็นแฟนน้องม่อน เข้าไปดึง พูดว่าพอแล้ว ๆ อย่าทำเขา อย่า เสียงดังเลย แต่น้องม่อนสลัด กระเด็นออกมาด้านหลัง เหวี่ยงไปโดนรถ ดูแล้วน้องผู้หญิงเอาไม่อยู่ วิ่งไปหน้ารถ เปิดประตูขึ้นรถ อึดใจเดียว น้องผู้ชาย เสื้อสีขาว ลงจากรถของม่อน ซึ่งเป็นหลาน จังหวะนั่นแหละผมถึงถือโทรศัพท์ขึ้นมา ตามความเข้าใจคนแถวนั้น คิดว่ารุมแน่ ก็ทำอะไรดี ก็ถือโทรศัพท์มาถ่ายได้ประเดี๋ยวเดียว เนื่องด้วยรถกระบะสองแถวสีแดง บีบแตรไล่ผมให้ขับไป จังหวะหักกลับมาได้ ม่อนก็ใส่อีก 2 หมัดก็ตามคลิป ตอนนั้นที่ถ่าย มีความคิดว่าน้องเสื้อสีขาวลงไปช่วยคน ของเขาหรือเปล่า แต่มาวิเคราะห์คลิปที่พนักงานสอบสวน เรียกไปสอบ ช่วยกันดู ภาพสโลว์ น้องเขาดึงแขนม่อน ถ้าเกิดเราทะเลาะกัน ผมจะจับคนของพวกเราเพราะอะไร ผมก็ต้องเปิดก่อนแล้ว พวกเราต้องช่วยคนของเรา ม่อนก็มีความเห็นว่าหลานเขาเข้ามาช่วย ผมคิดเองว่ามาอีกสองคน ก็เลยเปิดไปอีก เสื้อขาวก็เลยขวาง มือมาแบบนี้ ไม่มีคำบอกเล่าครั้บ ถ้าคนจะทำร้าย คนต้องอ้าหมัด แต่เขาไม่ง้าง ส่วนมือสุดท้ายที่เขายกมือขึ้น รวมทั้งยกไปในรถ อันนี้ตอบไม่ได้ น้องเสี้อขาวต้องตอบเอง

ขอโทษแฟนผู้ตายไรเดอร์

คุณดูรายการอยู่แล้วรีบมาเลย?

เอ : ใช่ครับ เพราะมีหลายด้าน แล้วทุกคนไม่เคยเจอผมเลย การที่สื่อเอาไปต่อเรื่อยตามโซเชียล มันไม่ใช่ข้อเรื่องจริง

ขอบคุณพี่ที่มาชี้แจง สดกว่านี้ก็ปลาในน้ำ ผมยังงง?
เอ : ตอนน้องม่อนขับรถออกไป ไรเดอร์เกือบจะถูกชนอีกคน เนื่องจากว่าเขาขับจี้ให้หลบออก ผมประกบซ้าย ไรเดอร์อีกคนประกบด้านหน้ารถ เพื่อไม่ให้หนี เพื่อให้อยู่ ส่วนน้องพี ขับรถตาม กดแตรสนั่นตลอดทาง น้องไรเดอร์ก็เกือบถูกชนเพราะว่าบี้กันตลอด แล้วพอหลุดไป มองเห็นพี่ทนายกล่าวว่ามีการชนเพิ่มหรืออะไร น้องพีขวางไม่ให้หนี เขาปัดมาใส่ ผมก็เห็น ผมเข้าใจว่าเขาจะเข้าแยกไฟแดงเดอะมอลล์บางแค แต่ไม่ได้เข้า เบี่ยงซ้ายขึ้นกาญจนากลับไปเลย น้องพีพอหลุดจากไฟแดงก็จอดนิ่ง เขาไปไม่ไหวแล้ว

แอน : (ร้องไห้) ผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไป เนื่องจากว่า ผมถ่ายคลิปตามเขา ก็จะเป็นประโยชน์บ้างมั้ย ผมเคาะประตูเรียกน้อง ๆ จังหวะที่ลงมา เลือดเต็มปาก หน้าฟุบอยู่กับพวงมาลัย เขาไปไม่ได้แล้ว เขาบอกว่าพี่ครับ ช่วยผมด้วย ผมถูกทำร้าย ปาก-มือสั่นไปหมด ถือโทรศัพท์ก็หล่น ผมก็กล่าวว่าให้จอดข้างทาง อย่าฝ่าฝืนขับ เขาขับเข้าข้างทางก็ไม่ได้ สติเขาไม่ได้ จังหวะนั้นผมก็วิ่งข้ามถนนหนทางไปแจ้งกู้ภัยนั่น จึงเป็นที่มารายการช่องนึงถ่ายภาพเต็ม ๆ ที่หน้าเขาบาดเจ็บ แต่ที่มองเห็นหน้าสะอาด กู้ภัยเขาเช็ดหน้าให้แล้ว

คุณปัทอยู่มุมนึง นี่อีกมุมนึง ที่คุณเออยู่ในเหตุการณ์แล้วเขาเห็น ฝั่งพี่สมเกียรติ เลยพาฝั่งม่อนไปมอบตัวว่าทำเขาจริง ๆ หลังจากนั้นประเด็นที่เกิดขึ้น มันไม่ได้จบ มันต่อเนื่องมาถึงเหตุการณ์ล่าสุด พี่ธนกฤต มองอย่างไร?
ธนกฤต : ต้องแยกเรื่อง การก่อเหตุบนท้องถนนหนทาง ไม่แน่ใจเฉี่ยวชนด้วยหรือไม่ การทะเลาะวิวาท ก็เหตุนึง เป็นผู้ก่อเหตุ เขาต้องรับผิดในเบื้องต้นก่อน เนื่องจากว่าทำร้าย ร่างกาย ตัดมาตอนมาที่โรงพัก คนที่ได้รับบาดเจ็บ มาก่อเหตุยิงเสียชีวิตอีก ก็เป็นอีกเรื่องนึง ราวกับสามช่วงต้องแยกว่าเกิดอะไรขึ้น คนบาดเจ็บยังมีความรู้สึกอยู่ในใจเลยก่อเหตุ แต่ไม่ฟันธงว่าใครถูกหรือผิด เนื่องจากว่าคำตอบ มีอยู่ในช่วงเวลาแล้ว ตร.ก็ทำตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น ส่วนนโยบาย กระทรวงยุติธรรม หากเวลามีเหตุแบบนี้ ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ก็มายื่นขอรับเงินเยียวยาที่กระทรวงยุติธรรม ส่วนประเด็นทนาย ความที่บาดเจ็บ ก็มายื่นขอรับความช่วยเหลือ เราจะดำเนินการให้ ประสานสภาทนายความให้ จริง ๆ โดยเรื่องราวก็ไม่เกี่ยวข้องเลย เขาปฏิบัติหน้าที่ ท้ายที่สุดก็เป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ต้องเตือนกัน ทุกอย่างต้องใจเย็น

แฟนคุณแอนบอกมั้ยว่ามีสนับมือ?
แอน : บอกค่ะ

คุณเพชรมองดูอย่างไร?
ทนายเพชร : จากลักษณะบาดแผล ระหว่างรูปคนโดนสนับมือ แผลไม่ใช่บางส่วนแค่นั้นแน่นอน แล้วอย่างที่บอกว่า ใบรับรองฉบับแรกไม่มีพูดว่าสนับมือ ส่วนใบรับรองหมอที่คุณ พยายามกล่าวอ้างว่ามีสนับมือ มันคงจะเกิดจากคุณไปแจ้งหมอเอง หมอน่าจะใช้คำว่าสนับมือ หรือของแข็ง ซึ่งของแข็งน่าจะเกิดจากแว่นเองมากกว่า พยานทุกคนก็ยืนยันว่าไม่ได้มีสนับมือ ที่กล่าวว่าสนับมือ เป็นการสร้างความชอบธรรมในการใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งไม่เห็นด้วย

ธนกฤต : ที่ตรงนี้ควรให้ต่อสู้กันในชั้นศาลดีกว่า มาหักล้างกันในรายการก็ไม่เหมาะ ก็อยากฝากเตือนสถานีตำรวจ ต่อจากนี้เป็นต้นไป ถ้าเป็นเหตุเถียงวิวาท อยากที่จะให้เจ้าหน้าที่กำชับเรื่องการตรวจตราอาวุธ โรงพักเป็นสถานที่ไม่น่าเกิดขึ้น ฝากผู้บังคับบัญชาตร. ให้ตรวจเรื่องนี้ไว้ เป็นระเบียบ ข้อบังคับดียิ่งกว่าจะได้ปลอดภัยกับคนอื่น

ปัทอยากฝากอะไร?
ปัท : ถ้าเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง อยากให้เป็นคนละเรื่องกันค่ะ แต่นี่เขาทำเกินกว่าเหตุค่ะ แทนที่จะฟ้องร้อง ตามปกติที่จะต้องเป็น แฟนหนูก็จะได้ต้องโทษตามกฎหมาย พอเขาใช้อาวุธปืน แฟนหนูไม่ได้บาดเจ็บ เขาเสียชีวิตเลย (ร้องไห้) แล้วหนูกับลูก คนข้างหลังล่ะค่ะ

ทนายเพชร : ขอฝากเรียนไปยังท่าน นายกสภาทนายความพึ่งได้รับตำแหน่งมาเดือนสองเดือน อยากที่จะให้ดูแลเรื่องความปลอดภัย วิชาชีพทนายความ เราเรียนแต่กฎหมาย ไม่เคยเรียนความถนัดป้องกันตัว ก็อยากให้มีมาตรการดูแลรักษา ความปลอดภัย ฝากไว้เท่านี้ครับ

สมเกียรติ : ฝากถึงสื่อโซเชียลที่ชี้ขาดโดยไม่ได้ทราบจริง ขอให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปตามใจครับ มือยิง

วีนอีก! แม่ค้าโวย bmmf12 การันตี 3,000 เสิร์ฟ เอาเข้าจริงขาดทุนยับ

bmmf12

แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ช้ำใจ bmmf12 การันตี 3,000 เสิร์ฟ เอาเข้าจริงขาดทุนยับทีมงานไม่มีแจกแจงแถมไล่ออกจากกลุ่มไลน์จบลงไปแล้ว กับเทศกาลดนตรี ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย Big Mountain Music Festival 2022 (บิ๊กเมาน์เท่น มิวสิก เฟสติวัล 2022)

ที่ปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 10-11 ธันวาคม 2565 ที่ The Ocean เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา บอกเลยว่างานนี้มีคนเข้าร่วมราว 1 แสนคนต่อวัน แต่ก็ไม่วายมีดราม่าเข้ามาไม่หยุด รวมทั้งยังคงประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างตลอด

แม้ว่างานจะจบมาแล้วหลายวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็น ของร้านค้า ร้านอาหาร ภายในงาน ที่เมื่อวานนี้ก็มีเรื่องราว ของพ่อค้าต้มเล้ง ที่ออกมารีวิวสถานที่รวมทั้งยอดจำหน่ายที่การันตีอยู่ที่ 2,500 เสิร์ฟ แต่พอเอาเข้าจริง กลับไม่เป็นไปตามที่เตรียมของไว้ทำให้ ขาดทุน ย่อยยับ ล่าสุดโผล่อีก 1 ร้าน

เนื่องมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งในกลุ่ม เราคือผู้บริโภค เป็นร้านค้า ที่ขายก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น โดยเธอนั้นได้เข้ามารีวิวเพื่อเป็น เครื่องช่วยตัดสินใจ สำหรับคนขายที่ต้องการ ไปเปิดหน้าร้านใน Big Mountain Music Festival ปีหน้า โดยกำหนดข้อความคร่าว ๆ ว่า

bmmf12 วีนอีก

จุดเริ่มแรกการไปขายสินค้า

จุดเริ่มแรกในการตัดสินใจ ส่งร้านเข้าไป เลือกใน #bmmf12 ครั้งนี้ เกิดจากส่วนตัวชอบไปงานเทศกาลดนตรีอยู่แล้ว เลยมีความคิดว่า คงจะลองส่งเข้าไปดู ได้ก็ดีแล้ว เป็นการต่อยอด ธุรกิจแล้วก็โฆษณาร้านไปในตัว คาดหวังกำไรเล็กน้อย ขอเพียงแค่ไม่ขาดทุน ก็พอใจแล้ว แต่ถ้าไม่ได้ก็เข้าใจ เพราะว่าคงมี หลายร้านส่งเข้าเลือก ซึ่งเราอาจจะยังไม่เหมาะกับงาน หรือมีร้านค้าอื่นในประเภทอาหารเดียวกันที่ถูกใจทีมงานมากกว่า

จนถึงวันประกาศผล ทางทีมงาน GMM food โทรมาแจ้งว่าได้รับคัดเลือก จะมีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท เป็นค่าเช่าร้าน 2 วัน ค่ามัดจำอุปกรณ์อีก 5,000 บาท เท่ากับต้องจ่าย 55,000 บาท ถ้าเกิดไม่มีการเช่าโต๊ะ เก้าอี้ หรือซื้อไฟในบูทงานเพิ่ม

ตกใจกับ ราคาค่าเช่า 2 วันมากกก แต่มาคำนวณแล้ว ถ้าหากตัดใจคิด ซะว่าเป็นค่าการตลาดจบงานแล้วผลกำไรนิดหนึ่ง หลักพัน หลักหมื่น หรือแม้แต่เท่าทุน ทางร้านค้าก็พอใจแล้ว จัดว่าไปพบประสบการณ์ออก งานใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยเหตุว่าได้รับบรีฟจากทางทีม GMM food ว่ามีคนเข้าร่วมงาน ประมาณ 100,000 คน บัตร 90,000 ใบขายหมดตั้งแต่วันแรก

มีร้านอาหารทั้งหมด 120 ร้านค้า เฉลี่ยแต่ละร้านแล้วจะได้ประมาณ 3,000 เสิร์ฟต่อวัน ย้ำว่ามีคำว่าการันตี3,000 เสิร์ฟต่อวันนะคะ ไม่ใช่ร้านค้าคิดกันเอาเอง(วันละ 3 มื้อ ไม่รวมวัน Set up งาน วันที่ 9 ที่อนุญาตให้เริ่มขายได้เลย เพราะเหตุว่ามีสตาฟเข้าไปหน้างานประมาณ 10,000 คน)

bmmf12 วีนอีกแม่ค้าโวย

นัดประชุมครั้งแรก bmmf12

พอจ่ายเงินทำสัญญาจบ ก็ถึงวันนัดประชุมร้านค้า ตอนแรกนัดประชุมกันทาง Zoom แต่แปลกใจว่า ทางทีม GMM food ไม่เคยทำงานสเกลใหญ่ หรืออะไร ถึงไม่ทราบล่วงหน้าว่า Zoom meeting จะเข้าร่วมได้แค่ 100 คน ซึ่งถ้าหากพูดว่ามี 120 ร้านค้าในงาน เท่านี้คนก็เกินแล้ว ไม่ถือว่าแต่ละร้านค้าอาจจะมีคนเข้าร่วม มากกว่า 1 คน กว่าจะได้เริ่มประชุม ก็เสียเวลาโยกไป Google Meet ซึ่งก็ติดปัญหาคน เข้าได้ไม่ครบอีก ระบบเสียงกระท่อนกระแท่น ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ทางร้านค้าก็พยายามเข้าใจ เลยรออ่าน Powerpoint ที่ present ทีหลังเอาทีเดียวดีกว่า

จบจาก การประชุม มีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากคนเข้าร่วมงาน 90,000++ เป็น 110,000++ ไม่รวมทีมงาน, ศิลปิน, บัตรผู้สนับสนุนต่าง ๆ ทำให้ทางร้านต้องจัดแจงยิ่งกว่าเดิม จากที่หวังไว้ เพียงแค่ร้านค้าเราขอเอาที่1,500 เสิร์ฟต่อวันก็พอใจแล้ว เลยเพิ่มเป็น 2,500 เสิร์ฟต่อวันแทน ต้องรีบไล่ สั่งสินค้า จ่ายตลาด เตรียมของไปออกงาน ให้พร้อมที่สุด ไม่อยากที่จะให้งานเสีย

ไม่ต้องการที่จะให้เค้าว่าได้ว่าเราไม่พร้อม เพราะเค้าย้ำ แล้วย้ำอีกว่า ทำได้แน่ใช่มั้ย มีทีมงานทำ 3,000 เสิร์ฟต่อวันได้รึเปล่า ถึงพวกเราไม่มีหน้าร้านก็จริง แต่ก็เคยมีประสบการณ์รับออกงานนอกสถานที่อยู่เสมอ ๆ รู้สึกว่าจัดเตรียมเกินไปดีทีสุด ดีมากกว่าไปขาดหน้างาน จากที่เตรียม ว่าจ้างรถกระบะขนของไปงานไว้ คันเดียว ก็ต้องเพิ่มเป็น 2 คัน

เนื่องจากว่าไม่สามารถ หารถ 6 ล้อได้ทันในเวลากระชั้นชิด สรุปงาน 2 วันลงทุนไป 300,000++ มีความรู้สึกว่าถ้าหากมีของเหลือ กลับมาบ้างก็เก็บไว้ขายต่อได้ เนื่องจากมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว แต่ถึงเวลาขนย้ายกลับจริงมันเยอะกว่าที่คิดไว้หลาย เท่าตัว จนถึงต้องไปเช่าห้องเย็นเพื่อฝากแช่ของไว้ต่อค่ะ

bmmf12 วีนอีกแม่ค้าโวยขาดทุน

ปรับเปลี่ยนพื้นที่ก่อนถึงวันงาน

พอใกล้วันงานมี การส่งแผนผังร้านค้ามาใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เข้าไปข้างในลึกเข้าไปใกล้เวทีใหญ่ ให้เหตุผลว่าก่อนหน้านั้นมี ฝนตกหนัก ทำให้บางพื้นที่เสียหาย ใช้ไม่ได้ เลยต้องปรับเปลี่ยน ตรงนี้เข้าใจรวมทั้งเห็นว่าเหตุผลพอรับฟังได้ค่ะ แต่คิดอีกที ก็เอ๊ะว่าแทนที่จะเลื่อนเข้าไปข้างใน ทำไมไม่เลื่อน ออกมาข้างนอก เพื่อลูกค้าเข้าถึงง่าย เจอร้านค้าได้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมทำแบบนั้นไม่ได้ ก็เพราะมันจะไปแย่งลูกค้าของสปอนเซอร์

พอถึงวัน set up งาน (วันที่ 9) ทางร้านสั่งน้ำดื่ม ประกอบอาหารไป 15 ถัง กะว่าจะได้เริ่มขาย คนในพื้นที่งานก่อน สรุปตามน้ำถึงเที่ยงคืน น้ำไม่มาส่งค่ะ สาเหตุมาจากรถขนส่ง ของทางโรงงานน้ำเข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะส่งเสร็จรอบนึง ออกไปรับของมาใหม่แล้วการ์ดไม่ให้เข้า อีกรอบ ทำให้หลาย ๆ ร้านไม่ได้รับของตามที่สั่งไว้
พอถึงวันงาน จากตอนแรกที่ประชุมร้านค้า แจ้งว่าให้นำรถเข้าโหลดของในพื้นที่ได้ช่วงเวลา 6.00-8.00 พอถึงเวลาจริงแจ้งว่า ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้าพื้นที่แล้ว จะขนของต้องใช้รถเข็นหรือแบกเข้างานเอง ซึ่งพื้นที่งานเป็นหลุม แอ่งน้ำ รอยล้อรถบลา ๆ ไม่ได้เอื้ออำนวยกับการ ใช้รถเข็นเลยค่ะ ทางร้านถือว่าโชคดีอยู่บ้างที่อยู่ใกล้ประตูเข้าออก (ร้านที่ 4 จากประตู)

แต่ทางผู้จัดได้คิดถึงร้านค้าอื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไปบ้างมั้ยคะ ที่ไม่อนุญาตให้นำรถของ ร้านค้าเข้าพื้นที่จัดว่าแย่แล้ว แต่ไม่มากเท่ากับไม่อนุญาตให้รถน้ำกิน กับรถน้ำแข็งเข้าพื้นที่ด้วยค่ะ น้ำ 20 ลิตร 1,000 ถัง ทางผู้จัดให้โรงงานน้ำดื่มนำใส่รถเข็นส่งร้านค้าที่อยู่ ห่างกันมากกก ถึงมากที่สุด

รถเข็นใส่ได้รอบละ 10 ถัง เท่ากับต้องเข็นรถอย่างต่ำ 100 รอบ ไม่ถือว่าบางร้านสั่งใส่ เติมภาชนะที่นำมาเพิ่มด้วย สรุปคืนวันนั้นรถเข็นโรงงานน้ำยางแตก งานวันที่ 2 ไม่มีน้ำส่งให้ร้านค้า

ทีมงานยังไม่มีการ อำนวยความสะดวกอะไรก็แล้วแต่ให้ทั้งสิ้น ต้องให้ร้านค้ามาเข็นและก็ยกน้ำ 20 ลิตร ผ่านคนเข้าชมคอนเสิร์ตหลักแสนคน ที่บางจุดแทบไม่มีที่หลบให้เดิน แล้วต้องเดินไปกลับ เนื่องจากว่าต้องนำถังสำหรับใส่น้ำมาคืน ให้ร้านที่ซื้อถัดไปอีก

ไม่ได้มีแค่นั้น จุดซักล้างน้ำไหล บ้างไม่ไหลบ้าง จะล้างของก็ลำบาก ขยะในงาน แจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ สรุปจนวันสุดท้ายที่เก็บของกลับถุงขยะยังกองอยู่หลังร้าน ไม่มีคนมาเก็บไปเลย

ทีมงาน bmmf12 ไม่ชี้แจง

จุดอับที่สุดอยู่ที่ S1-12 ต้องยกนิ้วให้ร้านค้า ที่ไม่ขาดทุนเลยค่ะ จุดตั้งร้านค้าแยกฉีกออกไปจากเวที ไฟดับ ๆ ติด ๆ แถมมีน้ำห้องอาบน้ำไหลมาบ้าง นั่งดูยังเห็นใจร้านค้าด้วยกันเลย สรุปพอจบงาน หลาย ๆ ท่านก็กล่าวคุยกันในไลน์กลุ่ม อาจจะมีใส่อารมณ์ใส่ผู้จัดบ้าง แต่ก็เข้าใจกล่าวถึงประสบการณ์แย่ ๆ แบบนี้

เหนื่อยใจเรื่องการจัดการไม่พอ ยังต้องเหนื่อยกาย แล้วขาดทุนเสียหายอีก มันก็คงมีอารมณ์เป็นปกติ ถึงถามหาความรับผิดชอบจากทีมงาน เพราะตอน บรีฟแจ้งย้ำแล้วย้ำอีกว่า “การันตี” วันละ 3,000 เสิร์ฟ ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าจะรอพักผ่อนให้หายเหนื่อย แล้วรอทีม GMM food ชี้แจง เผื่อจะมีข้อชี้แนะ

แสดงความความเห็น หรือข้อตกลงด้วยกันให้กับทั้ง 2 ฝ่าย สรุปเปิดมาอีกที 4 ทุ่มทีม GMM food ไล่ลบทุกคนออกจากกลุ่มไลน์ ร้านค้าโซนสามย่าน โดยไม่มีการชี้แจงอะไรก็แล้วแต่ ต้องขอปรบมือรวมทั้งยกนิ้ว ให้กับทีมงาน GMM food จริง ๆ

รวมสารพัดเหตุผล ที่คุณควรรอ iPhone 15 Ultra

คุณควรรอ iPhone 15 Ultra

สำหรับสาวก Apple คงลุ้นกัน ใหญ่ว่าปี 2023 นั้นจะมี iPhone 15 ออกมา โดยคาดว่า อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรุ่นสูงสุด

ที่มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว สเปกเรือธงโดยคาดว่า อาจมีการเปลี่ยนชื่อ มาเป็น iPhone15 Ultra เนื่องมาจาก จะเป็นรุ่นที่ ก้าวกระโดดจาก iPhone 14 Pro มากพอสมควร

ดีไซน์ใหม่ของ iPhone 15 Ultra ที่พวกเราคาดว่าจะเกิดขึ้น สิ่งแรกที่มีการพูดถึง เป็นการออกแบบ โดยคาดว่า iPhone15 Ultra จะได้ดีไซน์

ตัวเครื่องที่มีลักษณะโค้งมน และก็ข้างหลังเป็นกระจก ที่มีลักษณะคล้ายกับ MacBook Pro รองรับ MagSafe โยดคาดว่า ขอบตัวเครื่อง จะทำมาจาก ไทเทเนียม และก็กระจกด้านหลังแกร่งทนต่อการ ตกกระแทกได้ดีกว่าเดิม

แต่ว่ากล้องยังคง วางตำแหน่งที่เดิม อาจจะเปลี่ยนแปลงโดยการ เพิ่มขอบให้โค้งมนมากขึ้นนั่นเอง

iPhone 15 Ultra
iPhone 15 ข้อนี้เด็ดเพราะคาดว่ามันจะมาพร้อมกับ USB-C

และก็เป็น Thunderbolt ในรุ่นต่อไปคาดว่า iPhone15 อาจจะได้เป็นรุ่นแรก ที่ใช้ช่องเสียบ USB-C ตามที่กฎหมายจากสหภาพยุโรป

ได้กล่าวว่าผู้ผลิต Smart Phone ต้องใช้ช่องเสียบเป็น USB-C ทั้งหมดก่อนวันที่ 28 ธ.ค. 2024 ที่จะถึงนี้ แต่ว่าบางกระแส พูดว่าอาจจะไม่มีช่องเสียบใด ๆ เน้นระบบชาร์จไฟไร้สาย ก็เป็นไปได้

อย่างไรก็แล้วแต่คงจะต้องรอดู กันต่อไป ด้วยเหตุว่ายังไม่มีอะไร

รับรองได้ว่า iPhone15 จะใช้ช่องเสียบแบบไหน ทั้งนี้ Ming-Chi Kuo เผยว่า iPhone15 Pro จะใช้ได้ใช้ USB-C และก็รองรับ Thunderbolt แน่นอน

กล้องหน้าให้มาแบบคู่
ปกติกล้องหน้าของ iPhone จะเป็นกล้องเดียว และก็อีกเลนส์จะเป็นระบบ Depth Sensor ไว้ทำงานร่วมกับระบบ Face ID แต่ว่าก็มีความเป็นไปได้ว่า iPhone15 Ultra จะได้กล้องหน้าคู่

โดยพื้นที่ของ Dynamic Island จะมีความกว้างมากกว่าเดิม โดยคาดว่า iPhone15 ทุกรุ่นจะได้หน้าจอแบบ Dynamic Island ทุกรุ่นแม้ว่า จะมีข้อมูลเผยว่าระบบ Face ID จะซ่อนในหน้าจอก็ตาม

เลนส์ซูมกำลังมากขึ้น ดียิ่งขึ้นเด็ดขึ้น
ข่าวเรื่องการใส่กล้องซูมแบบ Periscope นั้นก็มีลือมาหลายครั้งอยู่เช่นกัน ปัจจุบัน มีข่าวออกมาว่า iPhone15 Ultra

อาจจะเป็นรุ่นเดียว ที่ได้กล้องซูมแบบ Periscope ทั้งนี้หากคนไหนอยากได้เลนส์ Periscope ใส่รุ่นปกติ อาจจะต้องรอใน iPhone 16 Pro ก็เป็นไปได้

เหตุผลที่คุณควรรอ iPhone 15

เลนส์ของกล้อง iPhone 15 Pro อาจจะพัฒนาให้เป็นชั้น ๆ และก็สามารถเลือก การซูมได้เหมาะสมมากขึ้น

แต่ว่าอย่าลืม ว่าเทคโนโลยี Periscope ค่ายอื่น ๆ เขาใช้มาก่อนหน้านี้ ที่รองรับการซูมได้สูงสุด 10 เท่า และก็ซูมไกลสุดที่ 100เท่า มาแล้ว

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ (จากข่าวลือทั้งหมด) ข้อมูลของ Ming-Chi Kuo ได้เผยออกมาว่า iPhone 15 ก็อาจจะเป็นการเลือก ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ

แต่ว่าสุดท้ายประเด็นนี้ อาจจะถูกปัดตกไป ด้วยเหตุว่า Apple แน่ใจว่าระบบ Face ID นั้นดีอยู่แล้วก็เป็นไปได้ และก็รวมถึงปุ่มด้านข้างแบบ Solid-State (ฝั่งไปกับขอบเครื่อง) ก็อาจจะ เป็นจริงในอนาคต และก็รวมถึงกล้องที่พัฒนา ให้ถ่ายที่แสงน้อยได้ดีมากขึ้น

ราคาและก็วันเปิดตัว แน่นอน ว่าเดือนเดิม มีการคาดการณ์ว่า iPhone15 Ultra จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในกันยายน 2023

และก็คาดว่า การผลิตคงจะมากขึ้นแล้ว ส่วนราคาที่คาดว่า iPhone15 Ultra อาจจะเคาะที่ 2,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ด้วยเหตุว่าการเปลี่ยนแปลง ที่มากมาย และก็อาจจะมี รุ่นความจำ 2TB เป็นตัวท๊อปสุด ให้เลือกด้วยเหมือนกัน

คุณควรรอ iPhone 15
ส่อง 8 คุณสมบัติใหม่ ที่คาดว่าจะมีใน iPhone15

เหลือเวลาอีกเกือบ หนึ่งปีกว่า ที่เราจะได้ iPhone 15 แบบใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (คาดว่าจะเปิดตัวในกันยายนปี 2023)

ในเวลานี้เรากลับได้ยินข่าวลือ ทยอยหลุดออกมา ให้เห็นกันแล้ว ดูราวกับว่า ‌iPhone15‌ รุ่นใหม่จะได้รับ การอัปเดตที่โดดเด่นมากกว่า ที่เราได้เห็นใน iPhone 14 รวมถึงคุณสมบัติที่ผู้ใช้ iPhone หลาย ๆ คนอยากได้ มานานหลายปี

วันนี้ได้นำข้อมูล ของคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่คาดว่าจะ ได้เห็นใน iPhone 14 Series ที่เรียบเรียงโดย MacRumors มาอัปเดตให้ได้อ่านกัน จะมีอะไรบ้าง ที่น่าสนใจและก็น่าตื่นเต้นก่อนการเปิดตัวรุ่นใหม่นี้

ครั้งแรกกับการมาของพอร์ต USB-C

ในปี 2023 อาจจะเป็นการสิ้นสุด ของการใส่ช่องเสียบ USB-C และก็จะมาแทน Lightning Port

โดยก่อนหน้านี้ทั้ง Mac, iPad และก็ iPhone จะใช้ช่องแบบเดียวกัน

Apple มิได้เปลี่ยนมาใช้ USB-C เพื่อทำให้ชีวิตของคุณสะดวกขึ้น อย่างแน่นอน แต่ว่ากำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ด้วยเหตุว่าสหภาพยุโรปกำลังเรียกร้อง iPhone ที่จัดจำหน่ายในยุโรป ควรจะมีพอร์ต USB-C ภายในปี 2024 ด้วยเหตุนี้ Apple ก็เลยต้องเปลี่ยน การออกแบบทั้งโลกหรือสร้าง iPhone พิเศษสำหรับยุโรปเพียงแค่นั้น?

อย่างไรก็แล้วแต่ในข่าวที่ ออกมาก่อนหน้านี้ Apple รับรองว่าจะปฏิบัติตาม ข้อบังคับท้องถิ่น

และก็ข่าวลือกล่าวว่า Apple จะทำการเปลี่ยนในปี 2023

มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงและก็เปิดปิดแบบสัมผัส (Solid State)

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ดังกล่าว เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า Apple บางทีอาจเพิ่มปุ่มปรับระดับเสียงและก็ปุ่มเปิดปิดแบบสัมผัส (Solid State)

ให้กับ ‌iPhone 15‌ แทนที่จะเป็นปุ่มจริง ซึ่งจะคล้ายกับแทร็คแพดบน Mac และก็ปุ่มโฮมของ ‌iPhone‌ 7 การตอบสนอง แบบสัมผัสจะ เลียนแบบความรู้สึก ของการกดปุ่มบนปุ่มทึบ แทนที่การกดปุ่มแบบกลไก

การใช้ปุ่มสถานะ ของแข็งอาจป้องกันน้ำเข้าและก็อาจจะทำให้ Apple สามารถกันน้ำได้ดีขึ้น การใช้การตอบสนอง แบบสัมผัส สำหรับปุ่มจะมีผลให้ Apple ต้องเพิ่ม Taptic Engine รุ่นใหม่

ปรับมาใช้ Dynamic Island สำหรับทุกรุ่น

Apple เปิดตัว Dynamic Island สำหรับ iPhone 14 Pro และก็ Pro Max ในขณะที่รุ่น ‌iPhone 14‌

ที่ราคาน้อยกว่า ยังคงใช้รอยบาก ด้วย ‌iPhone15‌ รายการทั้งหมด คาดว่าจะได้รับ ‌Dynamic Island‌ ทุกรุ่น ด้วยเหตุนี้หากคุณอยากเข้าถึง ‌Dynamic Island‌ แต่ว่าไม่ต้องการซื้อรุ่นท็อป ให้สิ้นเปลือง

เสนอให้รอ ‌iPhone15‌ ไปเลยดีกว่า

ขนาดเหมือนเดิม ไม่เคยได้ยินข่าวลือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ที่โดดเด่นสำหรับ ‌iPhone15‌ ในเวลานี้ ดูราวกับว่าเราจะได้ขนาดเท่ากัน ‌iPhone15‌ และก็ 15 Pro จะมีขนาด 6.1 นิ้ว และก็ ‌iPhone15‌ Plus และก็ Pro Max จะมีขนาด 6.7 นิ้ว ดังนั้นขนาดของเครื่อง ก็เลยไม่แตกต่างจากเดิม

iPhone 15

เทคโนโลยีเลนส์ซูมแบบ Optical (Periscope)

ได้ยินเกี่ยวกับงานของ Apple เกี่ยวกับเทคโนโลยีเลนส์ Periscope มาหลายปีแล้ว และก็ปี 2023 บางทีอาจเป็นปีที่มีการเปิดตัว เลนส์ Periscope ที่เน้นการซูมไกล และก็คมชัด ซึ่งผู้สร้างสมาร์ทโฟน Android บางรายใช้อยู่แล้ว มีความสามารถในการซูมแบบออปติคอล ที่เกินช่วงซูมที่มีใน เลนส์เทเลโฟโต้ แบบมาตรฐาน

ด้วยเลนส์ปริทรรศน์ Apple สามารถซูมออปติคอลได้ 5x หรือ 10x เพิ่มขึ้นจาก 3x ในรุ่น ‌iPhone 14 Pro‌ ปัจจุบันนี้

มาพร้อมกับชื่อที่บางทีอาจเปลี่ยนไปในบางรุ่น นั้นก็คือ iPhone15 Ultra
Mark Gurman แห่ง Bloomberg บอกว่า Apple บางทีอาจแทนที่รุ่น “Pro Max” ของ ‌iPhone15‌ ด้วยรุ่น “Ultra” ระดับไฮเอนด์ใหม่ อย่าง iPhone15 Ultra นั่นจะสอดคล้องกับ Apple Watch Ultra และบางทีอาจให้ข้ออ้างแก่ Apple ในการจำกัดคุณสมบัติ บางอย่างสำหรับ ‌iPhone‌ ระดับบนสุด ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีเลนส์ปริทรรศน์

อีกด้านหนึ่ง อย่างนักวิเคราะห์ ‌Ming-Chi Kuo‌ ได้บอกว่าเลนส์ Periscope ของ iPhone อาจมีความสามารถเยอะ ขึ้นกว่าเดิม ทำให้สมกับการเป็นชื่อ Ultra เช่นเดียวกัน

ชิปใหม่ขนาด 4 นาโนเมตร
ในรุ่น ‌iPhone 15‌ Pro บางทีอาจเป็นมือถือรุ่นแรก ที่มีชิปที่ผลิตโดย สถาปัตยกรรมขนาด 3 นาโนเมตรจาก TSMC ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ Apple เทคโนโลยีชิป 3nm คาดว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพ การประมวลผลได้ 10 ถึง 15% ในขณะที่ลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 30%

Apple

หาก Apple เลือกใช้ชิป A17 ที่มีขนาด 3 นาโนเมตรจริง ผลที่เกิดนั้น จะมีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าชิป A16 อย่างชัดเจน เฉพาะรุ่น Pro เพียงแค่นั้นที่มี A16 ซึ่งสร้างขึ้นจากกระบวนการ 4 นาโนเมตร

อย่างไรก็แล้วแต่ก็คาดการณ์ว่าชิป A17 ถูกจำกัดที่ ‌iPhone15‌ Pro ในทำนองเดียวกัน รุ่นมาตรฐาน ‌iPhone15‌ บางทีอาจได้รับการ อัปเกรดเป็น A16 รุ่นก่อนหน้า

RAM เพิ่มขึ้นเยอะสะใจ

‌iPhone 15‌ Pro บางทีอาจได้รับ RAM ขนาด 8GB เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมเพิ่มขึ้นจาก 6GB เพื่อรองรับความสามารถใหม่ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีเลนส์กล้องซูมไกล แบบ Periscope ฯลฯ

อย่างไรก็แล้วแต่สำหรับ iPhone15 Series ยังคงต้องรอดูกันต่อไป ว่าทั้งนี้ จะมีข้อมูลอะไร อัปเดตเพิ่ม มากน้อยแค่ไหน ด้วยเหตุว่ากว่าจะเปิดตัว ก็ต้องรอคอยไปจนถึงปี 2023 นี้

คุยกับ “หลัวเจิ้ง” (Luo Zheng) หนุ่มฮอตแดนมังกร พระเอกซีรีส์ Perfect Mismatch

หลัวเจิ้ง หนุ่มฮอตแดนมังกร

ช่วงนี้เหล่าชายหนุ่มๆดินแดนมังกร มาขโมยหัวใจสาวๆ ให้หลงรักกัน ไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้น ก็คือ หลัวเจิ้ง (Luo Zheng) ดาราหนุ่มหล่อ ที่มีผลงานการแสดงให้แฟนๆได้ติดตามกัน แบบไม่ให้พักหัวใจ หันสายตาไปหาใคร แล้วก็ เขากำลังเริ่มจะมีผลงานซีรีส์เรื่องใหม่ มาให้แฟนๆได้ติดตามอีกแล้ว

ซีรีส์ Perfect Mismatch

สัมภาษณ์พูดคุยกับดาราหนุ่มหล่อ หลัวเจิ้ง พระเอกหนุ่มฮอต

ที่มาขโมยหัวใจสาวๆ ที่ครั้งนี้มาในมาดใหม่เป็นชายหนุ่มหล่อสายฮา ในผลงานซีรีส์เรื่อง รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง (Perfect Mismatch) ซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างท่านประธานจอมหยิ่ง แล้วก็ พนักงานสาวสุดแสนธรรมดา เกิดเป็นความรักระหว่างประธาน แล้วก็ ลูกน้อง

แบบทั้งจิ้น ฟิน ฮา ที่คอยให้คุณพิสูจน์ทาง iQIYI พวกเราจะพาทุกคนไปพูดคุยกับหนุ่ม หลัวเจิ้ง ในบรรยากาสสุดกันเอง จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามจากบทสัมภาษณ์นี้กันเลย!

Perfect Mismatch (รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร มีความพิเศษอย่างไร กล่าวถึงเรื่องราว แล้วก็ นักแสดงของคุณในเรื่องนี้หน่อย

หลัวเจิ้ง: ซีรีส์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวความรัก ที่คาแรกเตอร์พระเอก ภายนอกจะดูเย่อหยิ่งๆครับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้างในเป็นคนใจดีครับ ทำงานเก่ง เก่งในเรื่องของงานมาก แต่ในเรื่องความรัก กลับไปไม่เป็นซะเลยครับ คาแรกเตอร์ จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊ก มีความคอเมดี้ เป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่น่าติดตามครับ

ผลงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของคุณ ส่วนมากจะเล่นบทเป็นชายหนุ่มมาดนิ่ง มาดขรึม แต่ในเรื่องนี้ คุณฉีกบทบาท ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เป็นแนวคอเมดี้สายฮาเลย บทบาทนี้ ท้าทายคุณมากน้อยแค่ไหน

หลัวเจิ้ง: สำหรับเรื่องนี้ ท้าทายค่อนข้างมากเลยครับ เพราะว่า ต่างจากซีรีส์เรื่องก่อนๆ ที่เคยเล่นมา คาแรกเตอร์ค่อนข้างจะแตกต่างไปจากเดิม ผมเลยจำเป็นต้องไปทำความเข้าใจ เพื่อสร้างตัวละครนี้ออกมาครับ ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเลย อยากที่จะให้ชมกันครับ

การเล่นบทเป็นประธานโจวจื่อเฝ่ย มีความใกล้เคียงกับตัวจริงของคุณมากน้อยแค่ไหน อะไรที่เหมือน แล้วก็ แตกต่างจากตัวจริงของคุณ

หลัวเจิ้ง: คาแรกเตอร์ตัวละครนี้ ไม่ค่อยมีความใกล้เคียงตัวผมเลยครับ โจวจื่อเฝ่ย เขาจะมีความตลกขบขันครับ ตรงจุดนี้ ผมก็มีความใกล้เคียงอยู่นิดนึงครับ โจวจื่อเฝ่ย เวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน เขาจะตลก ผมก็เป็นเหมือนกันครับ สิ่งนี้ที่น่าจะเป็นจุดที่เหมือนกันกับตัวละครครับ (ยิ้ม)

หลัวเจิ้ง

แน่นอนว่า แฟนๆตกหลุมรักเสน่ห์ของคุณ อยากที่จะให้คุณลองบอกเสน่ห์ของตัวเองสัก 3 ข้อหน่อย

Luo Zheng: จริงใจ, กล้าหาญ และก็ ใจดี ครับ

คุณเล่นเป็นประธานบริษัทมาหลายเรื่อง ในชีวิตจริงอยากเป็นประธานบริษัทอะไร

Luo Zheng: สามารถเป็นไปได้ทุกประธานบริษัทเลยครับ (หัวเราะ) อยู่ที่บริษัทไหนต้องการให้ผมเป็นประธานบริษัท ผมเป็นได้หมดเลยครับ

อยากที่จะให้คุณให้คะแนนความยาก ในแต่ละตัวละครที่เคยได้รับ (3 ตัวละคร)

Luo Zheng: ความยาก กู้เหยียนลั่ว (ยิ้มให้รักจากหัวใจ) 8 คะแนนครับ, กู้ซีเฉิง (ถึงคิวรักยัยบล็อกเกอร์) ได้ 8 คะแนนเหมือนกันในความยาก แต่บทของ โจวจื่อเฝ่ย (รักเกินต้านประธานจอมหยิ่ง) ให้ความยาก อยู่ที่ 9 คะแนนครับ

คุณได้ฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อซีรีส์นางเอกฝาแฝด” เพราะว่า คุณเคยรับบทบาท ที่มีนางเอกเป็นฝาแฝดถึง 3 เรื่อง รู้สึกอย่างไรบ้าง กับฉายานี้

Luo Zheng: ผมคิดว่า น่าจะเป็นเหมือนพรหมลิขิตครับ ที่ทำให้ผมได้มาเล่นบท ที่นางเอกเป็นฝาแฝดทั้งนั้นเลย

คุณหลัวเจิ้งอยากลองเล่นบทบาทฝาแฝดบ้างหรือเปล่า แล้วก็ อยากดีไซน์คาแรกเตอร์ฝาแฝดเป็นไงบ้าง

Luo Zheng: จริงๆผมก็คิดนะว่า อยากเล่นบทฝาแฝดดูบ้าง หากผมจะเล่นเหรอ คงจะต้องการให้ฝาแฝด มีความแตกต่างกัน ต้องการให้พี่ชาย มีความคูลๆหน่อย ส่วนน้องชายต้องการให้ ดูน่ารักครับ จะได้แยกสองคาแรกเตอร์ ออกได้ชัดเจน

อย่างที่ได้เห็นกันผลงานหลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ส่วนมากคุณสวมบทบาทเป็นท่านประธาน ในอนาคต คุณมีบทบาทที่อยากแสดงหรือเปล่า อยากรับบทบาทแบบไหน

Luo Zheng: อยากลองเล่นบทเป็นตัวร้ายครับ แบบร้ายสุดๆไปเลยนะครับ เพราะว่า เป็นบทบาทที่ผมไม่เคยได้ลองเล่นเลย อยากลองท้าทายตัวเองมากขึ้นครับ

คุณหลัวเจิ้งมีความคิดว่า การเดินทางบนเส้นทางการเป็นดาราของคุณ ใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้กี่เปอร์เซ็นต์แล้ว กำหนดจุดมุ่งหมายในวงการอย่างไรบ้าง

Luo Zheng: ถ้าถามว่า ใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้มากแค่ไหนแล้ว คงจะ 50% แล้วครับ ก็ครึ่งทางแล้วครับ ผมชอบเส้นทางการเป็นดาราในตอนนี้มากๆ ในอนาคต ผมจะตั้งใจทำงานในเส้นทางนี้ให้ดีที่สุดครับ

อยากเพิ่มคำถามสนุกๆว่า เคยดูละครไทยบ้างหรือเปล่า เรื่องอะไร รู้จักดาราไทย บ้างหรือเปล่า

Luo Zheng: จริงๆ ผมไม่ค่อยได้ดูซีรีส์ไทยเท่าไรครับ แต่ช่วงปี 2019 ผมเคยดูซีรีส์ไทยเรื่องนึง ที่ตัวพระเอกเป็นประธานบริษัท จะมีลุคเย่อหยิ่งๆนิดนึงเหมือนกัน ก็ได้ดู เพื่อจะทำความเข้าใจบทบาทตัวละครของเขา มาช่วยการแสดงของผม ชอบมากเลยครับ แต่ผมจำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร (รู้จักดาราไทยไหมคะ) ลิซ่า ครับ (หัวเราะ)

อยากมาเจอแฟนๆคนไทยหรือเปล่า มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆคนไทยบ้าง

Luo Zheng: ต้องการให้แฟนๆคนไทยรักษาตัวดีๆ และจากนั้นก็ คอยวันที่พวกเราจะได้พบกันครับ

ถ้าเกิดใคร ที่โดนตกกระทั่งหัวใจสั่นอย่างจังแล้วล่ะก็ อย่าลืมไปติดตามซีรีส์ รักเกินต้าน ประธานจอมหยิ่ง (Perfect Mismatch) ผลงานเรื่องล่าสุดของ หลัวเจิ้ง ได้ทาง iQIYI

คอนเฟิร์ม! “พลังประชารัฐ”นัด 6 ธ.ค.เปิดตัว”มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์”

พปชร.นัด 6 ธ.ค.เปิดตัว มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

พปชร.นัด 6 ธ.ค.เปิดตัว “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ด้าน “ดำรงค์ พิเดช” คอนเฟิร์มลาออกหัวหน้าพรรคโอกาสไทย คาดสูตรหาร 100 พรรคเล็กสู้ไม่ไหว

ความคืบหน้ากรณีที่มีกระแสข่าวสารว่า นาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ที่ได้ลาออกไปเปิดตัวพรรคโอกาสไทย เตรียมไปร่วมงาน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ล่าสุด พปชร.เตรียมเปิดตัวนาย มิ่งขวัญ อย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ธ.ค. เวลา 15.30 น.

เช่นเดียวกับ นายดำรงค์ พิเดช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ยืนยันว่า นายมิ่งขวัญ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคโอกาสไทย เพื่อไปร่วมงานกับ พปชร. โดยคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อที่ใช้ 100 เป็นตัวหาร ที่อาจทำให้พรรคเล็กเสียเปรียบ

นายดำรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรครักษ์ผืนป่าฯ ได้ประชุมและเปลี่ยนชื่อเป็น พรรคโอกาสไทย โดยมีนายมิ่งขวัญ เป็นหัวหน้าพรรค แต่ล่าสุดได้รับแจ้งแล้วว่า นายมิ่งขวัญ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อเตรียมเข้าร่วมงานกับ พปชร.โดยจะมีการแถลงข่าวสารอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้

นายดำรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายมิ่งขวัญ เข้ามาเปลี่ยนชื่อพรรครักษ์ผืนป่าฯ เป็นพรรคโอกาสไทย เพื่อเตรียมสู้ศึกลงคะแนนเสียงที่ใช้บัตรสองใบ และคาดว่าจะใช้สูตรคำนวณบัญชีรายชื่อโดยใช้ 500 เป็นตัวหาร แต่เมื่อสถานการณ์กลับไปเป็นใช้ 100 เป็นตัวหาร เขาก็ประเมินว่า พรรคเล็กคงสู้ไม่ไหว ต่อมานายมิ่งขวัญน่าจะได้คุยกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ขาดทีมเศรษฐกิจอยู่ เขาจึงตัดสินใจไปทางนั้น

นายมิ่งขวัญไม่ได้มีปัญหาภายในอะไรกับพรรคโอกาสไทย แต่เรื่องนี้เกิดจากเรื่องกฎหมายลงคะแนนเสียงที่ใช้บัตรสองใบ และเป็นสูตรหาร 100 ซึ่งพรรคเล็กตายหมด ไปไม่ได้สักพรรค รวมถึงพรรคเกิดใหม่ก็ลำบากด้วย

ผู้รายงานข่าวแถลงการณ์ว่า ในการลงคะแนนเสียงปี 2562 นายมิ่งขวัญ ได้รับเลือกให้เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ ในนามพรรคเศรษฐกิจใหม่ และในเวลาต่อมาเขาได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยบอกว่า ตนเองกับสมาชิกพรรคมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2565 เขาได้ประกาศลาออกจาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขณะที่กำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

เปิดตัว มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
ย้อนวาทกรรม “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” กลางสภา “งูเห่า-ลิงกินกล้วย”

“งูเห่า-ลิงกินกล้วย” ประโยคเด็ด จากปาก “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ที่เคยพูดกลางสภาในวันที่17ก.พ.2565 วันนี้กลับมาอยู่ในความสนใจอีกที

หลังมีรายงานข่าวสารจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงการทาบทาม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ และผู้ก่อตั้งพรรคโอกาสไทย ซึ่งล่าสุดได้รับคำยืนยันว่านายมิ่งขวัญ เตรียมร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ในส่วนของทีมเศรษฐกิจพรรค และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการหลังจากนี้

กรณีดังกล่าวถือว่าเรียกเสียงฮือฮาและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่น้อย เนื่องด้วยเมื่อครั้งที่นายนายมิ่งขวัญ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ขณะนั้นเจ้าตัวได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ในการสนับสนุนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

ไม่เหมือนกับแนวทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 5 คนที่เหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงมติในสภาผู้แทนราฎร ที่ในช่วงหลังมักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคพลังประชารัฐเสียส่วนมาก

ก่อนที่ต่อมาเมื่อครั้งมีการการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐกฎหมายธรรมนูญมาตรา152 เมื่อวันที่17ก.พ.2565 นายมิ่งขวัญ ได้อภิปรายเน้นย้ำถึงความล้มเหลวในการบริหารราชการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม

มิ่งขวัญ

โดยคราวนั้นนายมิ่งขวัญ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ทำให้เกิดนวัตกรรมศัพท์ขึ้นมาใหม่ 2 คำคำแรกคือคำว่า “งูเห่า” คำที่สองคือคำว่า “ลิงกินกล้วย” ผมบอกเลยว่าถ้าผมจะพูดเป็นภาษาชาวบ้านผมเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ผมพึ่งเข้าใจ แสลงนี้ชัดเจนวันนี้ สิ่งที่ผมจะพูดตั้งแต่นี้ต่อไปก็คือ

“ผมขออภิปรายและไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาว่าท่านไปทำอะไรหรือ ให้ใครไปทำอะไรเพราะเหตุใดพวกเขาพวกนั้นจึงเปลี่ยนจุดยืนผมขอบอกไว้เลยว่าสัญญาที่ให้ไว้กับ ประชาชนผมไม่สามารถหักหลังได้ 2 ปีเศษผม ไม่มีความสุขกับการทำงาน” นายมิ่งขวัญกล่าวเมื่อวันที่17ก.พ.2565

โดยหลังเสร็จการอภิปรายคราวนั้นนายมิ่งขวัญ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรกลางที่ประชุมสภาในวันเดียวกัน พร้อมย้ำว่า

“สิ่งที่สำคัญที่สุดผมจะออกไปพิสูจน์ว่าแม้ผมไม่ได้เป็นรัฐบาลความเหลื่อมล้ำจะถูกแก้ไขหรือไม่โปรดติดตามก็แล้วกัน และผมก็จะไปเตรียมสำหรับการลงคะแนนเสียงในสมัยหน้าถัดไปด้วยเราได้เจอกันแน่นอน”

พลังประชารัฐ
ก่อนที่ต่อมาในวันที่8มิ.ย. นายมิ่งขวัญ จะแถลงร่วมงานพรรคโอกาสไทย พร้อมชูทางเลือกมุ่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศ

โดยในการแถลงข่าวสารวันดังกล่าวผู้รายงานข่าวยังได้ถามหาจุดยืนของพรรค จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดย นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เดินตรงไปตามที่เคยเดิน จุดยืนคือประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่ร่วมกับพรรคไหน จะขอเปิดเผยในการแถลงข่าวสารในคราวหน้า

ตอนนี้ยังไม่ทราบจะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าไร แต่คนที่จะเข้าร่วมกับพรรคต้องเป็นคนที่สนใจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ถ้าไม่สนใจก็ทำงานด้วยกันไม่ได้ เตรียมเต็มที่มาอย่างดี มีคนสนใจเข้าร่วมกับพรรคระดับหนึ่ง มีความหลากหลายมีทั้งคนแก่และคนอายุน้อย จากสายวิชาการ การศึกษา เกษตร อาจจะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ขอยังไม่กล่าวว่าเป็นใครบ้าง

“วันนี้ขออย่าให้ผมไปทะเลาะกับใครเลย ไม่ต้องการทะเลาะกับใคร สำหรับพรรคโอกาสไทย นี้ผมจะเป็นหัวหน้าพรรคและเป็นแคนดิเดต นายกฯเอง” นายมิ่งขวัญกล่าวเมื่อวันที่ 8มิ.ย.2565

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ของ “มิ่งขวัญ” ในคราวนี้ถูกตั้งคำถามรวมถึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนของเขาผู้นี้อยู่ไม่น้อย ขณะเดียวกันการโยกย้ายสลับสับเปลี่ยนพรรค-เปลี่ยนขั้วของบรรดา “นักเลือกตั้ง”ยามนี้ ยังนับเป็นการ ตอกย้ำถึงสัญญาณลงคะแนนเสียงที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ !

ดราม่า #ล็อคกี้แฟน ยังแรงติดเทรนด์ แฟนๆ จี้ทีมงานแจง หลังรุ่นพี่ ‘เพิร์ธ’ ปัดเอี่ยวใช้อภิสิทธิ์

ล็อคกี้แฟน

ดราม่า #ล็อคกี้แฟน ยังแรง ติดเทรนด์ แฟนๆจี้ทีมงานแจง หลังรุ่นพี่ ‘เพิร์ธ’ ปัดเอี่ยว ใช้สิทธิพิเศษ
กลายเป็น ดราม่า แรงข้ามวันข้ามคืน กับประเด็นร้อน ล็อคกี้แฟน หลังปรากฏภาพศิลปินสาว เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช ที่ได้กลายเป็น แฟนๆผู้โชคดี หรือ “ลัคกี้แฟน” ขึ้นไปกระทบไหล่ ศิลปินดัง แจ็คสัน หวัง ที่ในการแสดงดนตรี JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 ที่จัดขึ้น เป็นวันที่ 2 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ซึ่งถ้า อ้างอิงจากการเลือก ลัคกี้แฟน หรือ แฟนๆผู้โชคดี จากรอบการแสดง วันแรกในการแสดงดนตรีของ แจ็คสัน จะพบว่า ศิลปินจะเป็นผู้มาเลือก แฟนๆผู้โชคดีด้วยตัวเอง ทั้งนี้กรณี ของดาราสาวราย ดังกล่าวกลายเป็น ดราม่าร้อน เหตุเพราะมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึง ทีมหน้าจอที่ได้ดูคลิป ในโลกออนไลน์ว่าการที่ เพิร์ธ ได้เป็น ลัคกี้แฟน นั้นถูกล็อกตำแหน่งไว้ แล้วหรือไม่

ล็อคกี้แฟน ดราม่ายังแรง

ซึ่งหลาย ๆ ราย ได้นำคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพเหตุการณ์ ล็อคกี้แฟน ขณะเลือกลัคกี้แฟนมาวิเคราะห์

รวมทั้งเห็นว่า ศิลปินไม่ได้เป็นผู้เลือกด้วยตนเอง รวมถึงพิจารณาถึงภาษากายของศิลปินที่แสดงออกกับลัคกี้แฟนในแต่ละรอบว่าแตกต่าง รอบแรกที่ศิลปินเลือกด้วยตัวเองนั้น อบอุ่นกว่ามาก

ทั้งนี้ จุดเริ่มแรกของดราม่าส่วนหนึ่งมาจาก “บทสนทนาในแอพดัง” ที่มั่นใจว่าเป็นการบอกคุยของดาราสาวผู้โชคดีรวมทั้ง “รุ่นพี่” ของเธอนั้น ซึ่งแท็กศิลปินสาวมา ซึ่งมีเนื้อหาให้พรให้เพิร์ธสมหวัง “ขอให้ได้ขึ้นไปบนเวทีกับพี่แจ็คนะ ตัวแทนหมู่บ้าน” รวมทั้งเจ้าตัวได้ตอบกลับว่า “สาธุเพี้ยง น้องใส่กางเกงสีม่วงนะ ฝากเล็งด้วย 55555”

ดราม่าล็อคกี้แฟน ยังแรงติดเทรนด์

ทั้งนี้หลังจากเกิดดราม่าผู้ครอบครองภาพบทสนทนา ซึ่งอ้างถึงว่าเป็นเพียงแค่ “รุ่นพี่” ของดาราสาว ได้ออกมาลบโพสต์ดังกล่าวไป รวมทั้งอธิบายไว้ความว่า เป็นเพียงแต่การอวยพรขำ ๆ แชตคุยกันแบบเล่น ๆ รวมทั้งไม่ได้เป็นสต๊าฟภายในการแสดงดนตรีแต่อย่างใด

ก่อนที่ นางเอกสาว เพิร์ธ จะออกมาอธิบายผ่านอินสตาแกรมว่า ตนเป็นเพียงแค่แฟนๆคนหนึ่ง รวมทั้งไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษใดๆตามที่มีการนำเสนอข่าวสารไปแล้วนั้น

เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช

นางเอกสาว ‘เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา’ แจง หลังมีดราม่าถูกล็อคเป็นลัคกี้แฟน ‘แจ็คสัน หวัง’

กลายเป็นดราม่าขึ้นมาอีกระลอก สำหรับการแสดงดนตรีของศิลปินดัง แจ็คสัน หวัง ที่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (26 พ.ย.) ได้มีการแสดงดนตรี JACKSON WANG MAGIC MAN WORLD TOUR 2022 ที่จัดขึ้นเป็นวันที่ 2 โดยในงานจะมีการเลือกลัคกี้แฟนจากแฟนๆที่เข้ามาร่วมชมการแสดงดนตรี

เพื่อขึ้นไปบนเวทีเพื่อร่วมโชว์กับศิลปินคนดัง โดยงานนี้สาวผู้โชคดีนั้นคือ นางเอกสาว เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา ตั้งกิจสุวานิช แต่ที่กลายเป็นประเด็นร้อนนั่นก็คือการถูกเฝ้าดูจากทั้งคนที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงทีมหน้าจอที่ได้ดูคลิปในโลกออนไลน์ว่าการที่ เพิร์ธ ได้เป็นลัคกี้แฟนนั้นถูกล็อคตำแหน่งไว้แล้วหรือไม่

เพิร์ธ วีริณฐ์ศรา

โดยมีผู้ที่ได้โพสต์คลิปบรรยากาศในงานที่ แจ็คสัน ได้ลงจากเวทีมาเลือกผู้โชคดีนั้น ก็ถูกวิจารณ์ไว้ว่าสาวเพิร์ธนั้นได้ยืนอยู่บริเวณด้านหลัง รวมทั้งถูกทีมงานตรงนี้ ดึงออกมาให้เป็นลัคกี้แฟนหรือไม่ โดยได้สังเกตุกันว่า แจ็คสัน ยังเดินไปไม่ถึงบริเวณนั้นเลยด้วย รวมถึงยังมีการแชร์ แชทของสาวเพิร์ธ กันในโลกออนไลน์ ที่ไม่บอกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ว่าตนเองนั้นใส่กางเกงสีม่วง รวมทั้งฝากเล็งด้วย จนถึงเกินแฮชแท็ก #ล็อคกี้แฟน ขึ้นมาในโลกทวิตเตอร์ทันที

อย่างไรก็ตามล่าสุด เพิร์ธ ก็ไม่นิ่งนอนใจกับดราม่าดังกล่าว รีบออกมาอธิบายทันทีว่า

“พี่แจ็คเป็นศิลปินระดับโลก ส่วนเพิร์ธเองก็เป็นแฟนๆปกติคนนึง ที่เป็นหนึ่งในผู้ที่พอใจรวมทั้งชื่นชมพี่แจ็คเหมือนใครหลายๆคนนะคะ รวมทั้งพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่แจ็คเสมอ การที่เพิร์ธได้ถูกเลือกในวันนี้มันก็เป็นสิ่งที่เพิร์ธเองก็ตกใจมากเช่นกัน แต่กลับกันก็กระปรี้กระเปร่าใจมาก ๆ

ที่ได้ใกล้ศิลปินที่พอใจค่ะ เพิร์ธจะขอชี้แจงกับทุก ๆ คนอย่างบริสุทธิ์ใจ จริงๆค่ะ ว่าเหตุการ์ณวันนี้ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการมา ล็อคสิทธิพิเศษนี้ไว้ให้เพิร์ธเลยนะคะ ต้องการให้พี่ ๆ ทุก ๆ คนมองเพิร์ธเป็นเพียงแค่จุดเล็ก ๆ ในวงการรวมทั้งเป็นเสมือนแฟนๆที่รักในศิลปินของเรา เหมือนทุก ๆ คนค่ะ เพิร์ธต้องขอโทษแฟนๆพี่แจ็คทุกๆคนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดนะคะยังไงก็ตาม เพิร์ธจะสนับสนุนพี่แจ็คอย่างเต็มที่เหมือนกันกับพี่ ๆ แฟนๆทุกๆคนค่ะ“

เพิร์ธ ล็อคกี้แฟน

แต่ว่า แม้ว่าจะผ่านมาแล้วร่วม 2 วัน ดราม่า #ล็อคกี้แฟน ยังคงมีการกล่าวถึงรวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยปัจจุบัน (เมื่อเวลา 11.47 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน) มีผู้ทวีตข้อความพร้อมติดแฮชแท็กดังกล่าวแล้วกว่า 4.2 แสนข้อความ รวมทั้งอยู่ในเทรนด์ฮิตทวิตเตอร์ไทยแลนด์ อันดับที่ 3

โดยข้อความส่วนมากต่างเรียกร้องให้ต้นสังกัดรวมทั้งผู้จัดงานออกมาอธิบายถึงกรณีดังกล่าว ว่ามีข้อเรื่องจริงประการใด

ฝรั่งเดินสะดุด ทำเสาป้ายหน้าห้างดังสยามล้มทับเก๋ง ห้างยังไม่รับผิดชอบ บอกเสาอยู่ของมันดี ๆ

ฝรั่งเดินสะดุด

ฝรั่งเดินสะดุด ทำเสาบอกทางหน้าห้างดังสยาม ล้มทับเก๋ง ห้างบอกเสาอยู่ของมันดี ๆ มีคนไปโดนเอง ซึ่ง เสาตั้งไว้เฉย ๆ ไม่มีอะไรยึดกับพื้น

(29 พ.ย.65) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพความเสียหาย ของรถเก๋งสีขาว สภาพกระจกฝั่งคนนั่ง พังยับ พร้อมระบุ ข้อความว่า “ ต้องการเล่ามาก ต้องการอยากรู้ว่าคนไหนผิด เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวานพาลูกไปหา หมอผิวหนัง ที่ห้างดังแห่งหนึ่งที่ ใกล้กับรถไฟฟ้า Bts จอดรถอยู่ในห้าง แล้วหาหมอเสร็จ ก็ขับรถออกมา จากที่จอดรถรวมทั้ง กำลังไปรับลูกชาย ที่ห้างใกล้ ๆ เราขับรถออกมา รอเลี้ยวตรงหน้าห้าง ขณะรอที่จะเลี้ยวรถ ทันใดนั้นเราก็ ได้ยินเสียงฟาดลงมา ที่รถดังมาก ราวกับมีอะไรมาชน เรามองไปเศษกระจกเต็มตัวลูก ร้องกรี๊ด งงมาก ๆ มองลูกว่าไม่เป็นไร แต่ว่ามีเหล็กยื่นเข้ามาในรถ เราจึงค่อยออกมา ดูที่รถมาพบว่า เสาที่หน้าตึกหล่น ทับรถเรา ”

ฝรั่งเดินสะดุด ทำเสาป้ายหน้าห้างดังล้มทับเก๋ง

และยังระบุ ต่ออีกว่า “ เมื่อมองไปอีกด้าน เห็นฝรั่งตัวใหญ่ยืนงง ฝรั่งเดินสะดุด

ขาบาดเจ็บ สืบไปกระทั่งทราบว่า เค้าสะดุดล้มและหันมายึดกับเสาต้นนั้น มองไปอีกเสา ไม่ได้ยึดอะไรกับพื้นเลย (พอดีพลเมืองดีมาช่วยบอก) เสาต้นเบอเร่อ ยืนอยู่บนถนน ที่คนเดินไป ๆ มา ๆ อยู่หน้าห้างใหญ่ ไม่มีไรยึดเลย เพราะอะไร ในขณะนั้นอาการมึนงง แล้วคนก็มากขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องคดีทางฝรั่ง ก็รับผิดชอบแล้ว แต่ว่าทางห้างเค้าไม่คิด จะรับผิดชอบเลยรึ เค้าบอกว่าพี่เสามันยืนอยู่ดี ๆ แต่ว่ามีคน ไปโดนมันเองรวมทั้งล้มใส่รถพี่เอง ไม่เกี่ยวกับเค้า ”

คุณปู (นามสมมติ) บอกว่า เวลาประมาณ 19.30 น. ตนรวมทั้งลูกได้เดินทาง ไปทำธุระที่ห้างโด่งดัง ใจกลางกรุงเทพฯ ขณะกำลังจะเดินทาง กลับมาถึงทางออก ของห้างตนได้ยิน เสียงดังมาก ราวกับมีอะไรมาชน ที่ตัวรถ ก็เลยมองออกไป พบว่ามีวัตถุเหมือนเสา ล้มมาทับรถ ที่ตนกับลูกนั่งอยู่ รู้ตอนหลังเป็น ป้ายเข้า-ออก ของห้าง ป้ายดังกล่าว มีขนาดใหญ่รวมทั้งหนักมาก จะต้องใช้คนประมาณ 3 คน ในการยกออก

เสาป้ายหน้าห้างดังสยามล้มทับเก๋ง

คุณปูบอกว่าตนรวมทั้งลูก โชคดี ที่ไม่เป็นอะไรมาก เพราะเหตุว่ากระจกรถ มีฟิล์มที่เป็นเซฟตี้ ยึดตัวป้ายเอาไว้ ทำให้มีเพียงเศษของกระจกนิดหน่อย ที่ตกใส่ตัว หากลูกสาวไม่ยื่นตัว ไปเลือกเพลง รวมทั้งนั่งนิ่งอยู่บนเบาะ เหล็กนั้น ก็อาจล้มทับลูกของตัวเองก็ได้ นับว่าคราวนี้ เป็นโชคดีของตัวเองกับลูก

ด้านชาวต่างประเทศที่สะดุดล้ม กระทั่งมาชน กับป้ายดังกล่าว ขณะเกิดเหตุมีลักษณะตกอกตกใจ รวมทั้งมึนงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุเพราะป้ายนั้น ไม่มีการยึดกับพื้นใดๆ รวมทั้งชาวต่างชาติ ได้ติดต่อมา ยังคุณปูแล้ว พร้อมทั้งรับผิดชอบ ใช้ค่าเสียหาย จำนวนเงินทั้งหมด 15,000 บาท จากที่ได้ไกล่เกลี่ย กับทางประกันรถ

คุณปู ยังกล่าวต่ออีกว่า ขณะเกิดเหตุ ตัวแทนห้าง ได้ชี้แจงกับผู้เสียหายว่า ป้ายดังกล่าว ตั้งอยู่ดี ๆ แต่ว่ามีคนไปชน กระทั่งทำให้ป้าย ล้มใส่รถ ผู้เสียหายเอง เหตุนี้ ก็เลยไม่เกี่ยวกับ ทางห้าง ตัวแทนก็เลยแนะให้ ทางผู้เสียหายรวมทั้งประกันภัยรถยนต์ คิดค่าเสียหายจากคนต่างชาติ แต่เพียงผู้เดียว

ป้ายหน้าห้างดังสยามล้มทับเก๋งห้างยังไม่รับผิดชอบ

ล่าสุด (29 พ.ย.65) ตัวแทนทางห้าง ได้ติดต่อมาหา ผู้เสียหายแล้ว แต่ว่ายังไม่มี การชี้แจงเรื่องการรับผิดชอบ แต่อย่างใด พร้อมถามมายังผู้เสียหายว่า อยากที่จะให้ทางห้างเยียวยาด้านใด

คุณปูยังฝากถาม ไปยังห้างอีกว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ อีกทางห้างจะมีแนวทาง การรับผิดชอบยังไง เหตุเพราะจุดดังกล่าว มีผู้คนเดินผ่านไปมา จำนวนมาก จากตั้งป้ายควรมีความละเอียดรอบคอบ รวมทั้งปลอดภัยกว่านี้ พร้อมยังกล่าวอีกว่า เหตุดังกล่าว คือเรื่องสุดวิสัย ของชาวต่างชาติ แต่ว่าเป็นความประมาท ของห้าง กระทั่งนำมาซึ่งอุบัติเหตุ ดังกล่าวขึ้น

เสาป้ายหน้าห้างดังล้มทับรถเก๋งสีขาว

ก่อนหน้านี้ ก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับ บนทางเท้า สำหรับชาวต่างชาติ

ยังมีอีกราย นนท.ต่างชาติสังเวยเลือดฟุตบาทพัทยา นักเดินทางคนต่างชาติ สะดุดฟุตบาทล้มหน้าคะมำ เหตุฟุตบาทพื้นไม่สม่ำเสมอ ชาวเน็ตแนะเร่งแก้ไขหวั่น กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

สืบเนื่องจาก กรณีที่ถูกแชร์ในโลกอินเตอร์เน็ต เรื่องอุบัติเหตุ จากฟุตบาทกระทั่งเป็น ที่วิจารณ์หลังเพจเฟซบุ๊ก “เรารักพัทยา” เผยแพร่ ภาพเหตุคนต่างชาติได้รับอุบัติเหตุ เกิดสะดุดล้มฟุตบาท ที่ยุบตัวทำให้พื้นไม่สม่ำเสมอ กระทั่งส่งผลให้ศรีษะแตก เป็นแผลยาว ราว 1 นิ้วครึ่ง รวมทั้งเลือดไหลอาบทั่วใบหน้า

ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยเหตุเกิดขึ้น เมื่อนานมาแล้ว บริเวณหน้าห้องอาหาร La Ferme เขตพัทยาเหนือ ถนนพัทยา-นาเกลือ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

ดังนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ เกี่ยวข้องได้ดำเนิน การปรับปรุงพื้นที่ดังกล่าว ที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว เหตุเพราะเกิดเสียงเรียกร้อง ของชาวเน็ตฝาก ให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปรับปรุงให้ดี หวั่นเกิดเหตุขึ้น อีกเหตุเพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ การท่องเที่ยวของเมืองไทย เพราะเหตุว่าพัทยา เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ได้มีเพจดังกล่าว ได้รายงานเพิ่มว่า เจออุบัติเหตุดังกล่าว ในลักษณะเดียวกัน บริเวณฝั่งฟุตบาทชายหาด ซึ่งคราวนี้เกิดขึ้นที่เขตพัทยากลาง เจอชายคนต่างชาติได้รับบาดเจ็บใบหน้า เป็นแผลถลอก จากการสะดุดฟุตบาทที่พื้นไม่เสมอ โดยระบุข้อความว่า “โผล่อีกราย สะดุดทางเดิน เหตุเกิดเวลาเช้ามืดหน้าโรงแรมทวินปาม ล้มกันประจำต้องการที่จะให้ มาตรวจหน่อย พื้นมันไม่เสมอกัน ฝั่งฟุตบาทชายหาด ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ”